You are not logged in.
โพสท์รายละเอียด องค์การปฏิวัติไท ทั้งหมดในกระทู้นี้
ขอบคุณ
ติดต่อ Webmaster & Admin
Dr. Richard Saisomorn
P O BOX 194 SPIRO, OKLAHOMA 74959 USA
E-mail: amerilao@gmail.com
Tel: + 1 (918) 962-0210
Offline
ขอบคุณท่านดร.ริชาร์ด ชัยสมรเป็นอย่างยิ่ง
ขอบคุณในความกล้าหาญและเสียสละ อนุญาตให้"องค์การปฏิวัติไท"ผู้ไร้บ้านที่จะพึ่งพา ได้มีโอกาสจุติขึ้นในรังที่ท่านเอื้ออำนวยด้วยความเมตตาที่บ้านท่านเอง
เหมือนดังท่านเคยมีน้ำใจโอบอุ้มอุปการะท่านนายพลกองแล วีระบุรุษนักรบผู้ยิ่งใหญ่ของลาวท่านหนึ่งมาก่อนอย่างยาวนาน
วิญญาณนักรบกล้าจาก ภูผาที นาคัง บ้านบาน ทุ่งไหหิน ในเขตเชียงขวาง และเขตหัวพัน เหมือนวิญญาณและสิ่งศักดิ์สิทธิของท่านเหล่านั้น ได้เข้ามาดลใจ ให้ท่านเกิดความกล้าหาญ ที่จะช่วยเหลือเพื่อนนักรบด้วยกัน ด้วยใจและแขนที่เปิดอ้ากว้าง อย่างมิลังเล
และเราจะเดินก้าวมุ่งหน้าไปด้วยกัน จนกว่าเราจะได้เห็นดอกไม้ที่บ้านเราได้เบ่งบานเต็มไปทั้งท้องทุ่งและเต็มทั่วแผ่นดิน ให้เยาวชนรุ่นใหม่ในแผ่นดินเราทั้งสอง มีโอกาสได้สัมผ้สอัยอุ่นแห่งเสรีภาพ อิสรภาพ และดำรงชีวิตมีประชาธิปไตย เหมือนตัวเราและลูกหลานเราได้สัมผัสทุกวี่วันในอเมริกา ....ช่างเหมือนฝันอัศจรรย์ด้วยกันแท้
หมายเหตุ-วันจุติ"องค์การปฏิวัติไท-Thai Revolutionary Organization(TRO)"วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 11 เดือน 11 2561(2018)
เรา"คณะปฏิวัติไท" จะไม่ลืมบุญคุณท่านครั้งนี้ตลอดไป
ขอบคุณท่านดร.ริชาร์ดที่ "Promises made" and
" Promises kept "
Thank you very much.
Last edited by ปาปียอง (November 12, 2018 6:04 AM)
Offline
เยี่ยมครับ
Offline
ผมจะไปชวนพวกๆเราให้มาที่นี้ แน่นอน
Offline
คำประกาศขององการค์ปฏิวัติไท(Thai Revolutionary Organization)
เพื่อนร่วมชาติทั้งหลาย
เมื่อกษัตริย์องค์นี้ถือขึ้นครองราชตามกฏมณเทียรบาลในฐานะเป็นมกุฎราชกุมาร สืบต่อจากพระบิดาผู้เป็นกษัตริย์ที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ทั้งๆที่ประชาชนคนไทยยังยากจน และขาดการศึกษา กษัตริย์รัชกาลที่ ๙ ทรงอนุญาตให้ประชาชนหลงงมงายทางศาสนาที่ผิดไปจากพระพุทธศาสนาที่แท้จริง พระสงฆ์องค์เจ้ามียศฐาบรรดาศักดิ์ ร่ำรวย เต็มไปด้วยกิเลสตัณหา ทรงปล่อยปละละเลย ใช้พระราชอำนาจปกครองเยี่ยงกษัตริย์สมบูรณาญาสิทธิราชโบราณ โดยใช้ทหาร จปร. องคมนตรี อำมาตย์เป็นเครื่องมือ กดขี่ ข่มเหง รีดนาทาเร้นต่อประชาชนมาตลอด จนสถานะสภาพความเป็นอยู่ของคนไทยถูกจัดเป็นอันดับท้ายๆของโลก เป็นที่รู้ดีว่าทรัพย์สินและทรัพยากรที่มีในราชอาณาจักร ล้วนถูกลิดรอน บดบังไปเป็นของราชวงศ์ จนพระองค์ครองความเป็นกษัตริย์ที่ร่ำรวยที่สุดในโลกมาหลายปีเสมอมา โดยจัดแบ่งความมั่งคั่งให้พวกอำมาตย์ราชบริพาร และให้ทหารของชาติ ที่ทรงใช้เป็นเครื่องมือในการยึดอำนาจบ้านเมืองเป็นลูกคู่อย่างอิ่มหนำสำราญ
เมื่อมีรัฐประหารทุกครั้งก็จะมีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มา ๒๐ ครั้ง และประเทศมีรัฐธรรมนูญมา ๒๐ ฉบับแล้วในรอบ ๘๖ ปีที่คณะราษฎร์ ได้มีรัฐธรรมนูญฉบับแรกบัญญัติขึ้นมา จนบ้านเมืองปกครองมาอย่างชนิดที่แล้วแต่"พระเนตรพระกรรณ"จะถูกเพ็ดทูลโดยข้าราชบริพารผู้ใกล้ชิด ว่าเหตุการณ์บ้านเมืองจะเป็นอย่างไร หาได้มีแบบกฎหมายอันเป็นธรรมในหลักสากลใดๆไม่ ทั้งที่อ้างเสมอว่าประเทศเป็นระบอบกษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญเสมอมา ประชากรหลายคนที่กล้าลุกขึ้นต่อสู้ หรือทำอะไรระคายเคืองต่อเบื้องพระยุคลพระบาท ทั้งนี้รวมทั้งการใช้พระอำนาจของกษัตริย์ปัจจุบัน และลูกหลานของพระองค์จนมีคดีความ มีคนติดคุก ถูกทรมาน ถูกฆ่า และฆ่าเต็มถนน ทรมานและฆ่าในคุกมากมายตลอดรัชกาล และยังคงมีต่อไปจนรัชกาลใหม่ปัจจุบัน พวกกษัตริย์ราชวงศ์จักรีนี้ไม่เคยมีทศพิธราชธรรม อันเป็นธรรมะของพระราชาที่เคยปฏิบัติแต่โบราณมาทั้งหลาย แต่ละองค์ในราชวงศ์นี้โดยเฉพาะตระกูลมหิดลท้ายสุด หาได้มีธรรมอันนี้ไม่แม้สักข้อเดียว อยู่ครองราชสมบัติมาด้วยเวลายาวนานถึง ๗๐ กว่าปี บนความชั่วร้ายสาระพัดชนิดที่ได้ร่วมกันวางแผนครอบครอง และครอบงำประชาชนด้วยพระราชอำนาจอันล้นพ้น แถมครั้งสุดท้ายพระราชบิดา(ร.๙)ยังอนุญาตให้ทหารจปร.ยุคคสช.เข้ายึดอำนาจตอนพระองค์ประชวรหนัก เพราะทรงเห็นว่าบ้านเมืองจะไปไม่ไหวแล้ว จึงจำต้องใช้กำลังทหารที่ไว้ใจได้ คือพวกทหารเสือราชินี เข้ายึดอำนาจเอาไว้ให้ได้ก่อนประชาชนจะลุกฮือขึ้นมา จนสวรรคต
บัดนี้ย่อมเป็นที่ประจักษณ์อย่างชัดแจ้งแล้วว่า กษัตริย์พระองค์ใหม่ ที่ไม่กล้าประทับในประเทศตัวเอง ได้มีนิวาสถานหลายแห่งในยุโรป ได้ร่วมกันทำการยึด-ถ่ายเท-ฉ้อฉล ทรัพย์สมบัติและทรัพยากรณ์ของชาติ โดยร่วมหัวกับพวกเจ้าสัวมั่งคั่งไม่กี่คน ได้ชักนำอำนาจการเงินจากนอกประเทศ หวังเข้ามายึดครองที่ดิน กิจการ ความมั่งคั่งที่คนไทยยังมีพอจะกิน เพราะประเทศเป็นอู่ข้าวอู่น้ำที่สมบูรณ์แห่งหนึ่งของโลก โดยวางแผนยึดประเทศต่อตามแผนพัฒนาอีก ๒๐ ปี และตลอดไป
พวกข้าพเจ้าเฝ้ามองดูตลอดมา ด้วยความเป็นห่วงประเทศและประชาชนไทย หวั่นกลัวว่าในที่สุดประเทศของเราจะกลายเป็น หรืออยู่อย่างเป็นทาสประเทศเพื่อนบ้านค่อนข้างแน่นอน การฉ้อราษฎร์บังหลวงจากพวกคสช.และการพยายามยึดครองที่ดินทรัพย์สิน และทรัพยากรณ์ที่สำคัญทั้งประเทศกำลังเกิดต่อไป จนกว่าประชาชนจะกัดฟันกล้าลุกฮือขึ้นต่อสู้ หรือจำต้องยอมเป็นทาสเพราะความอ่อนเปลี้ยเพลียแรงจนสู้ไม่ได้อีก
องค์การปฏิวัติไทยจึงอุบัติจุติขึ้นจากคนไทยในต่างประเทศ และร่วมด้วยคนไทยรักชาติภายในประเทศที่ยังเหลือความกล้าหาญอยู่ จะเป็นองค์การจำลองเลียนแบบการต่อสู้ของประชาชนของประเทศอเมริกา ตอนปลดแอกตัวเองจากการเป็นทาสกษัตริย์อังกฤษ และจะนำเอารัฐธรรมนูญการปกครองซึ่งประเทศอเมริกามีอยู่เพียงฉบับเดียวมาใช้ ประเทศสาธารณะรัฐไทใหม่ของเรา จะไม่มีมาตราไหนกล่าวถึงสถาบันกษัตริย์อีกต่อไป และสถาบันทหาร-ตำรวจ การปกครอง เศรษฐกิจ ประเพณีวัฒนธรรมระบบราชการ ศาล ขบวนการยุติธรรม การศึกษา จะเปลี่ยกลับหลังหันหมดจากระบบเดิมทีเคยถูกครอบงำมาทั้งสิ้น
ขอพรพระศรีรัตนตรัยอันศักดิ์สิทธิของพระพุทธองค์ พรจากพระเยซูเจ้า และพระพรจากพระมะหะหม้ดผู้เป็นใหญ่ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในแผ่นดินนี้และทั้งโลก โปรดปกป้อง ดลใจให้การต่อสู้เพื่อปลดแอกชาติไทยเรา ของ"องค์การปฏิวัติไท" หรือชื่อสั้นว่า"ไทยอิสระ-FreeThai" ได้บรรลุและสัมฤทธิ์ผล ได้ดั่งหวังเทอญ
ประกาศไว้ ณ.ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
เวลาท้องถิ่น ๑๑.๑๑ น. วันอาทิตย์ที่ ๑๑ เดือน ๑๑ (พฤศจิกายน) พ.ศ ๒๕๖๑
ตรงกับวันทหารผ่านศึกของอเมริกา และครบ ๑๐๐ ปีสงครามโลกครั้งที่ ๑ จบลง
องค์การปฏิวัติไท(Thai Revolutionary OrganiZation - TRO - FreeThai)
Last edited by ปาปียอง (November 12, 2018 5:33 AM)
Offline
ของเก่ามาเล่าใหม่เพราะคนไทยลืมกันง่าย
ลองเอามาปะติดปะต่อเหตุการณ์ที่ชั่วร้ายสุดโหดในแผ่นดิน ที่เป็นอาวุธสำคัญตอนหนึ่งในการฆ่านักศึกษาประชาชนอย่างโหดเหี้ยม อำมะหิต ไรัความปราณีดังเช่นพวกปีศาจ เหตุการณ์และหลักฐานพวกนี้เองที่กษัตริย์จอมอัจฉริยะในเรื่องแอบหลังตู้เย็น ได้ใช้ซุ้มมือปืนองคมนตรีนำโดยปรวยซ้อลตี้เฮด นักฆ่าลุ่มเจ้าพระยา เป็นมือปืนรับจ้างที่คุมทำเนียบทหารจปร.ใช้สังหารทำลายพสกนิกรที่กล้าคิดต่าง และปลุกขบวนการมวลชนที่กษัตริย์จัดตั้งไว้เป็นขั้นตอนเป็น"มือประชาชนใช้สังหารประชาชน" อวดชาวโลกว่าประชาชนในประเทศรักพวกมัน อนุญาตให้ฆ่าพวกที่ไม่เห็นด้วยอย่างเพลิดเพลินเริงอำนาจ ปราศจากความเกรงกลัวกฎหมายสากลในการฆ่าคนได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ประดิฐวิธีการศาลและบวนการยุติธรรมอันสุดป่าเถื่อน ที่มันวางเอาไว้
พวกมันครองอำนาจต้วยวิธีการเช่นนี้เองมาตลอดที่อยู่ในอำนาจมา 70 กว่าปี จนถึงลูกมันที่มีประวัติการฆ่าคนมามากมาย แม้ผู้หญิงที่น่าสงสารเช่นศิรินทิพย์ ศิริวรรณ ดาราภาพยนต์ที่เคยเป็นนายจ้างของยุธิดา ผลประเสริฐเมียแรกที่มันเคยหลงใหล เพืยงพูดผิดเล็กๆน้อยๆ สามีนักแต่งเพลงที่ยิ่งใหญ่ในวงการบันเทิง ชาลี อินทรวิจิตร ยังพยายามประคับประคองรักษาร่างกายเพื่อให้ได้มีอายุยืน ให้ได้เห็นความหายนะของราชวงศ์นี้ หวังความยุติธรรมจากกฎแห่งกรรมจากสวรรค์มากระทั้งปัจจุบัน ผลที่ตามมาในที่สุดยุวธิดาก็ถูกจับเฮโรอีนที่สนามบินฮีทโรว์ที่ลอนดอน และต้องหลุดจากวงจรราชวงศ์มหิดล เพราะถูกสงสัยว่ามีลูกติดท้องจากภิญโญ ทองเจือคู่รักดาราเก่า ก่อนมาเป็นของเสี่ย นัยทั้งพ่อและย่าไม่ยอม
ข่าวเรื่องเพียงเรื่องเดียว มีหลักฐาน บทตีพิมพ์ทั้งลับทั้งเปิดเผย คลิ๊ปเสียงของเบ้นซ์ใช้โทรศัพย์ต่อรองกับเสี่ย ผู้คนกล่าวถีงกันมามากมายที่คงปฏิเสธไปไม่ได้
https://youtu.be/xEpG1ytclJU?t=2755 (โปรดกรุณาอ่านคอมเมนท์ในคลิปด้วย ภาพต่างๆจึงจะเพิ่มชัดขึ้น)
https://youtu.be/cSOxSDlqZpw?t=1416
เราไม่สามารถจะมีเวลามาแฉความชั่วร้ายกันทั้งหมดทุกคดีในเวลาเดียวสั้นๆได้ เพราะระยะเวลาที่ผ่านมาย่าง 73 ปีแล้ว แต่พยายามจะนำมาลงซ้ำอีก เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการพิพากษาคดีแผ่นดินเมื่อเราทำการปฏิวัติประเทศได้สำเร็จแล้ว หากท่านผู้ใดมีหลักฐานอะไรเพิ่มเติมอีก โปรดกรุณาติดต่อ"องค์การปฏิวัติไท" เป็นศูนย์รวมแห่งหนึ่ง เพื่อทำประวัติศาสตร์ของเราช่วงหฤโหดและเป็นสาเหตุสำคัญที่พวกมหิดล นำโดยกษัตริย์ภูมิพลถึงต้องล่มจมและต้องถูกทำลายให้หมดไปจากแผ่นดินเรา ทำให้ประวัติศาสตร์มีความสมบูรณ์มากขึ้น
กรุณาฟังความคิดเห็นของคุณจรรยา ยิ้มประเสริฐ ผ่านช่องของคุณจอม เพชรประดับด้วย จะได้เข้าใจว่าพวกนักต่อต้านใต้ดินต่างประเทศเราอญูยู่กันอย่างไร? คิดกันอย่างไร? ลำบากกันมาอย่างไร?
และทำไมเราจึง"ตั้งองค์การปฏิวัติไท" องค์การต่อสู้ของคนไททั้งในและนอกประเทศ ที่มีเป้าหมายสู้รบกับพวกทรราชในทุกรูปทุกแบบ และเป็นพวกที่มันเรียกเราว่าเป็นกบฎ หรือผู้ก่อการ(ดี)ร้ายหรือจะเรียกเราว่าอะไรไม่สำคัญ
แต่เราจะเอาประเทศเราคืนจากพวกโจรร้าย ด้วยวิธีหนามยอกเอาหนามบ่ง และปราบโจรด้วยกองโจร และปกครองตัวเอง
เผด็จการต้องพินาศ ประชาชนต้องการปกครองตนเองแบบประชาธิปไตยเท่านั้น
พบกันใหม่
โชคดีครับ
Last edited by ปาปียอง (November 12, 2018 1:13 PM)
Offline
หัวใจของการปฏิบัติการรบแบบกองโจรคือการซุ่มโจมตี(Military Ambush)
https://en.wikipedia.org/wiki/Ambush (โปรดพยายามหาแปลบทความนี้ ทำความเข้าใจเบื้องต้นไว้บ้าง จะช่วยให้เข้าใจง่ายขึ้นเมื่อยกตัวอย่างมาประกอบ)
การซุ่มโจมตีเป็นบทเรียนแรกและเป็นหัวใจทางยุทธวิธีในสงครามทุกชนิด และโดยเฉพาะสงครามกองโจร ที่มีการคิดค้นวีธืการและได้รับการพัฒนามาประมาณ 2 ล้านปีที่แล้ว(โปรดดูคลิปภาษาอังกฤษที่แนบมาด้วย-แล้วคลิกปุ่มแปลเป็นภาษาเรา) การซุ่มโจมตีต้องจัดให้เข้ากับสถานะการณ์ทางการเมือง ความจำเป็น ตลอดถึงอาวุธที่มีอยู่ในมือ รู้อาวุธของข้าศึก รวมทั้งขวัญ กำลังใจ วินัย การฝึก-ความชำนาญของข้าศึกหน่วยนี้ รู้ผู้บังคับหน่วยทุกระดับ-ล้วนฝ่ายเราต้องแอบไปหาข่าวมาล่วงหน้า หรือพยายามไปแอบเห็นในค่ายทหารที่ครอบครองพื้นที่เราอยู่ การประเมินและมีความชำนาญต่อภูมิศาสตร์ การกำหนดเวลาบนพื้นที่สังหาร รู้ภูมิประเทศเปรียบเหมือลายเส้นบนฝ่ามือ กองโจรต้องมีวินัยสูงสุด จะทำตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัด ฯลฯ) ในกลาแลนด์มีการห้ามอย่างเด็ดขาด ในการแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับเรื่องการสงครามทุกชนิด ข่าวสารเกี่ยวกับอาวุธ เครื่องมือสื่อสาร ยุทธวิธีต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องกองโจรทุกชนิด เพราะพวกทหารจปร.ไทยมันกลัวประชาชนจะนำมาใช้ และตัวเองจะถูกทำร้ายได้
แต่ในโลกเสรีนั้นทุกคนมีสิทธิในการแสวงหาความรู้ เข้าถึงข่าวสารอย่างไม่มีขอบเขต แม้แต่การทำอาวุธนิวเคลีย หรือสร้างเครื่องบินส่วนตัวเอง ยกเว้นบางประเทศมีกฏหมายห้ามเปิดเผยข่าวสารที่เป็นความลับ และเป็นความมั่นคงของประเทศ ที่รัฐจำต้องสงวนไว้(ชั่วคราว อาจจะเป็น 10 - 40 ปี ตามความจำเป็น) แต่ประเทศประชาธิปไตยที่เจริญแล้ว ประชาชนต้องมีสิทธิเรียกร้อง(demand)ในข่าวสารทุกชนิดในประเทศจากรัฐบาลและห้องสมุดของสภา(Library of Congress) ตั้งแต่ตั้งประเทศมา เพื่อศึกษา ต่อผู้ต้องการเรียนรู้ นักรัฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ นักประวัติศาสตร์ หรือนักกวนเมืองทั้งหลาย ฯลฯ เพราะประเทศเป็นของประชาชนทุกคน หน่วยราชการหรือบุคคลใดไม่มีอำนาจปิดบังความจริงของประเทศได้ เพราะข่าวสารความรู้นั้นเป็นของประชาชนเจ้าของประเทศ เป็นอันเข้าใจกันว่าบทเขียนอันนี้นั้น ถูกต้องตามกฏหมายสหรัฐอเมริกา(US Freedom of Information Act- gov FOIA)และสากลทุกประการ ไม่ต้องกังวลกังขาจะอ่านกันอีกต่อไป
ต่อประวัติศาสตร์ที่ท่านผู้รู้รวบรวมไว้ในวิกิพีเดียที่ท่านได้อ่านวันนี้ ก็จะทราบว่าการรบราฆ่ากันในทางทหารนั้นมีวิธีการพลิกแพลงมากมาย มีตำราเขียนกันหลายพะเรอเกวียน แต่ก็มาจบลงจากหลักการเรื่มต้นขั้นพื้นฐานของการทำสงคราม คือศิลปะการโจมตีที่"คาดไม่ถึง-" ที่จะสามารถทำลายข้าศึกได้อย่างรวดเร็ว เด็ดขาด และผูัทำการโจมตีเสียหายน้อยที่สุด หรือไม่มีเลย
การโจมตีนั้นใช้โดยเริ่มจากการฝึกสอนหน่วยเล็กๆขนาดหมู่ 4 - 6 คน ของฝ่ายผู้มีกำลังน้อยกว่า และยึดอาวุธยุโธปกรณ์ข้าศึก การซุกซ่อนอาวุธ เมื่อการรบขยายใหญ่ขึ้นมืขีดความสามารถการซุ่มโจมตีขบวนรถเคลื่อนย้ายกำลัง(convoy) ถือว่าประสพความสำเร็จขั้นมาตรฐานสากลแล้ว จนกระทั่งกำลังกล้าแข็งพอ จนเราสามารถทำลายหน่วยระดับใหญ่ของข้าศึกระดับกองร้อยขึ้นไปได้ ทันทีจะมีบุคคล สปอนเซอร์ หรือรัฐบาลภายนอกยื่นมือมาช่วยเรา เพราะเขารู้ว่าเราสู้จริง และจะให้พวกมันพากันเสียขวัญ และหมดกำลังใจจะต่อกรอีกต่อไปได้ ซึ่งเมื่อเป็นไปได้ถึงขนาดนั้น ก็จะทำให้ทหารไทยมากมายหลายกลุ่ม(นอกเหนือจากพวกจปร.
เช่นนายทหารที่จบมาจากสถาบันอื่นๆ นายจ่า-นายสิบ-พลทหาร และแม้จปร.ทหารแตงโม) คิดหลบหนีหรือแปรพรรคมาสวามิภักดฺิ์ต่อฝ่ายปฏิวัติซึ่งเป็นคนไทยด้วยกันอย่างแน่นอน และเราต้องรีบอ้าแขนรับ ดังเช่นปัจจุบันของสงครามตะวันออกกลาง คือทหารซีเรียที่แปรพักต์(Fomer Syrian Army-FSA)ไปเป็นปฏิปักษ์กับรัฐบาลเป็นต้น
เพราะการมีกองทัพไทยไว้ฆ่าประชาชนตามคำสั่งของภูมิพลและเปรมมาตลอดนั้น ย่อมเป็นที่รู้ดีในหมู่ทหารชั้นสัญญาบัตรทั่วไปว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมายสากล ผิดศีลธรรมที่ฆ่าประชาชน-นศ.ที่ไม่มีอาวุธ และหลายกรณีย์เช่น
ตอน 6 ตุลา 2519 ที่ปิดประตูสังหารนักศึกษา-ประชาชนที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เหมือนยิงนกในกรง ตกปลาในบ่อตัวเอง(โดยซื้อปลามาใส่) เหมือนอดีตพระเอกไชยา สุริยัน(หม่อมหลวง อภิรัฐ จรูญโรจน์) เมืองไทยเรียกว่าทำสนุกกับ"ของตาย"-เมื่อไหร่ก็ได้(ผู้ชายไทยหมายถึงเมียที่บ้านด้วย-น่าสงสารหญิงไทย) อะไรทำนองนั้น
ทหาร-ตำรวจและจนท.พวกนี้จะถูกพิพากษาโดยศาลประชาชน และจะรับโทษตามกฎหมายของประชาชน ถึงแม้บางคนอายุเกือบร้อยปีก็ไม่มีการยกเว้น ให้พวกมันนอนบนพื้นซีเมนต์ มีแสงสว่างจากหลอดไฟฟ้าเปิดใส่ตามันยี่สิบสี่ชั่วโมง และคงตายในคุก ไม่มีคำว่าสลดใจต่อทรราชและสมุนของมัน นั่นคือที่พวกมันสมควรได้อยู่มานานแล้ว ทีเรามือเปล่าและุุถูกมัดมืออยู่มันยังฆ่าพวกเราลง ศีลข้อหนึ่งไม่ใช่เพื่อพวกนี้
หรือหมายถึงมวลประชาชนผู้ไม่มีอาวุธในมือ ออกมาสู้เรียกร้องด้วยวิธีอหิงสา เพียงใช้ปาก ถือไมโครโฟน-ทรโข่งและเครื่องขยายเสียง แบบวิธีท่านมหาตมคานธีแห่งอินเดียใช้ต่อสู้ปลดแอกอังกฤษ การใช้วิธีหรือถือลัทธิอหิงสาในประเทศนี้ กับทรราชกษัตริย์อำมะหิตไทยและทหารจปร.ที่ขี้ขลาด-วัวสันหลังหวะ ล้วนถูกปราบด้วยกระสุนจริง ตายเกลื่อนมาทุกครั้ง องค์การปฏิวัติไทไม่เชื่อว่าเป็นการต่อสู้ที่ใช้ต่อสู้กับทรราชที่ขี้ขลาด เห็นแก่ตัว วัวสันหลังหวะทหารจปร.ไทยพวกนี้ ด้วยวิธีร้องขอ กราบกราน หรือหลอกให้รอการเลือกตั้ง และแนวทางเปิดโดยการเลือกตั้งที่ทักษิณเชื่อ หรือแบบเดิมๆมานานเกินแปดสิบปีมาแล้ว แล้วแอ่นคอคอยให้มันหลอกเชือดฆ่า บาดเจ็บครั้งละหลายพันคน หรือต้องต้อนไปติดคุก ต้อนไปฆ่าและฝังเป็นครั้งละหลายคอนเทนเน่อร์ พลัดพราก ครอบครัวถูกทำลายฉีกขาด เด็กไร้ที่พึ่ง ขาดพ่อ-แม่ องค์การปฏิวัติไทจะไม่เชื่อลมปากพวกทรราชอีกต่อไป
จึงจะเริ่มเขียนบทความเรื่องศิลปะการต่อสู้แบบกองโจร(Arts of military ambush methods in Guerrilla warfare) จากประสพการณ์ที่เคยรู้เคยเห็นและเคยทำมา เป็นคาถาและเป็นอาวุธให้ประชาชนและนักปฏิวัติ ได้รู้จักการต่อสู้ และป้องกันตัวให้ปลอดภัย เพราะอีกไม่นานพวกเราก็จะได้เห็นการต่อสู้แบบนี้ไปทั่วประเทศ ทั้งกลางวันและตอนกลางคืน..
ความมืดเป็นสวรรค์และสัจจะธรรมชั้นพื้นฐานในการรบแบบกองโจรที่ต้องใช้เป็นประจำ จะเผาโค่นทำลายอะไรปลอดภัยที่สุด เกิดในความมืดดีที่สุดเสมอ ไม่เคยเปลี่ยนแปลง.....
รบเถิดอรชุน
โปรดติดตามตอนต่อไป
โชคดีครับ
Last edited by ปาปียอง (November 22, 2018 5:09 AM)
Offline
AMBUSH-2
เรื่องการซุ่มโจมตีทางทหารนั้นเป็นทฤษฎีและบทเรียนที่กว้างขวาง มีการเพิ่มเติมขยายความรู้ความสามารถไปตามแต่ประเทศและกองทัพหรือแม้หน่วยรบก็แตกต่างกันเสมอ พวกเราก็เรียนรู้เฉพาะการที่หน่วยอเมริกันที่เพิ่งเปลี่ยนจากหน่วยโอเอสเอส(OSS-Office of Stragic Service) ที่กองทัพอเมริกาใช้ทหารหน่วยรบพิเศษ ที่มีความสามารถในการรบหลายรูปแบบ ทั้งกระโดดร่ม การยังชีพในป่า การจู่โจม การใช้อาวุธทั้งแบบประจำกายและอาวุธหนักที่เคลื่อนที่ได้โดยบุคคล เช่นปืนครก เครื่องยิงจรวดต่อต้านรถถังแลัรถหุ้มเกราะสมัยแรกคือคจถ.3.5(นิ้ว) เดี๋ยวนี้เปลี่ยนเป็นบี40(B-40) และ บี 41 มม.หรือเรียกจรวดปลีกล้วยของรัสเซีย จนรถถังแทบหมดความหมายในการรบในเมืองหรือที่แคบๆ และอะไรใหม่ๆอีกเยอะแยะที่ใช้ในตะวันออกกลางตอนนี้ การพยาบาลที่ต้องใช้ยามบาดเจ็บสาหัส เช่นการทำแผลและพยาบาลคนไข้ที่ใส้ทลักออกมา ตลอดจนการใช้มอร์ฟีนสงบผู้บาดเจ็บ การสื่อสารทุกชนิดที่ใช้กันสมัยนั้น การประกอบระเบิดแสวงเครื่อง และความรู้เรื่องระเบิดทุกชนิด ฯลฯ
หน่วยโอเอสเอสได้กลายมาเป็นหน่วยข่าวกรองใหม่คือซีไอเอมา ตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่2ใหม่ๆสมัยปธน.ทรูแมน ผู้ตัดสินใจทิ้งระเบิดปรมาณูใส่ญี่ปุ่นที่ฮิโรชิมาและนางาซากิ เพื่อสงวนชีวิตทหารอเมริกันที่ต้องใชัเข้ายึดแผ่นดินญี่ปุ่นคาดว่าเกือบล้านคน
กระทั่งมาถึงปัจจุบัน การฝึกฝนนักสู้แบบกองโจร ซึ่งเน้นหนักนอกจากความรู้ทางทหาร(ไม่ใช่แบบเจมส์ บอนด์ 007) แล้วขั้นต่อไปคือการเป็นครูฝึกที่ดี ใช้ฝึกคนอื่นต่อ การแตกเซลจัดตั้งเพิ่มกำลัง มีความรอบรู้เรื่องรปภ.(เป็นเรื่องใหญ่มาก) การหาข่าวทุกชนิดที่สุดสกปรก อาวุธและเครื่องมือสื่อสารชนิดล้ำหน้า เมื่อมีกำลังพอเพียงแล้วต้องมีความสามารถในการบริหารเครือข่ายงานจารกรรมแบบตาสัปรด ที่ตอนนี้ทหาร.จปร.คสช.ให้พวกกอรมน.ใช้อยู่ โปรดพิจารณาคลิ๊ปของอ.พวงทอง ภวัครพันธ์ที่คุณจอม เพชรประดับสัมภาษณ์ไว้ จึงเอามาลงในเวปนี้ซ้ำอีก..สำคัญมากต่อนักปฏิวัติขณะนี้ เราต้องเข้าใจเนื้อหาเรื่องในคลิ๊ปนี้อย่างละเอียดและมากที่ที่สุด เราจึงจะหาช่องโหว่ให้การปฏิบัติงานของเราปลอดภัย ได้สัมฤทธิ์ผลดียิ่ง
https://youtu.be/cYHqEEwwXzk?t=6
http://www.puey.in.th/index.php/%E0%B8% … 1%E0%B8%B2
ขอเล่าต่อการเข้ามาจัดตั้งเครือข่ายต่อต้านคอมมิวนิสต์ ขององค์การซีไอเอรุ่นแรกๆที่เริ่มจากรัฐบาลอเมริกันส่งตัวแทน(Agent)สายลับ-spy)เข้าไทย ตั้งแต่ปี 1954 พอเป็นสังเขป เกี่ยวเฉพาะเรื่อง"งานลับกู้ชาติ" มันเกี่ยวพันกันมาอย่างไรบ้าง ว่าประเทศเราสมัยนั้นยังล้าหลังในการรบ ทั้งทางอาวุธยุทโธปกรณ์ ความรู้ในการบริหารกองทัพหรือหน่วยกองกำลังทั้งทหารและตำรวจสมัยนั้น โดยเริ่มมาตั้งแต่ปลายสงคราม ซึ่งพวกเสรีไทยนำโดยนายปรีดี พนมยงค์(รู้ธ) และพลตำรวจเอกหลวงอดุลย์ อดุลเดชจรัส(เป้นคนมุสลิมหรือเป็นอิสลาม-นักเรียนนายร้อยเพื่อนรักจอมพลป. เป็นอธิบดีกรมตำรวจตอนนั้น-เบ๊ตตี้)ภายในประเทศ ส่วนต่างประเทศในอเมริกาคือมรว.เสนีย์ ปราโมช ซึ่งเป็นเอกอัคราชทูตไทยที่วอชิงตันผู้แปรพักต์สวามิภักดิ์ต่อฝ่ายพันธมิตรอเมริกา หลังจากญี่ปุ่นเข้ายึดครองไทยทางทหาร และจอมพลแปลก พิบูลย์สงครามประกาศเข้ากับฝ่ายอักษะที่มีญี่ปุ่น-เยอรมัน-อิตาลีแล้ว ทางอังกฤษก็ทำเช่นเดียวกันคือเอกอัครราชทูต"ท่านชิ้น" มจ.ศุภสวัสดิ์วงศ์สนิท สว้สดิวัฒน์(พี่ชายต่างมารดาพระนางเจ้ารำไพพรรณี มเหสีร.7) องค์การลับใต้ดินเสรีไทยจึงได้ถือกำเนิดเกิดขึ้น
https://www.silpa-mag.com/club/art-and- … icle_11184 (ฝ่ายอังกฤษนำโดยพันตรี(กองทัพอังกฤษ) ป๋วย อึ๊งภากรณ์(นายเข้ม เย็นยิ่ง) ก็พยายามนำพวกมาทางเรือดำน้ำ จากเมืองแคนดี ซีลอน(ศรีลังกาปัจจุบัน) พยายามขึ้นบกที่จ.ระนอง และฝั่งอันดามันสองครั้งไม่สำเร็จเพราะคลื่นลมจัดมาก จขนต้องใช้วิธีโดร่มซึมเข้าไทยทางภาคกลาง (ดูเหมือน) ที่จ.ชัยนาท และก็ถูกจับ ส่งตัวไปให้หลวงอดุลฯ. เพื่อนๆจะมองเห็นภาพว่าการจัดตั้งเสรีไทยภายในประเทศยอดเยี่ยมเพียงไหน อ.ป๋วยและพวกก็ปลอดภัย...........การจัดตั้งขององค์การปฏิวัติไทของเราในอนาคต ก็จะทำในลักษณะเดียวกัน)
https://www.silpa-mag.com/club/art-and- … icle_11184
กรุณาอดทนอ่านวีระกรรมของคนไทยยามชาติถึงคราวอับจน ประวัติศาสตร์ไม่หนีไปไหน มันจะซ้ำรอยเช่นเดิมหรือคล้ายคลึงกัน แต่เป้าหมายคนไทคราวนี้ คือการแสวงหาการปกครองตนเอง เราหมดหวังและจะไม่ยอมอยู่ภายใต้อำนาจทรราชกษัตริย์ ผู้คิดหนี กอบโกย โขมย ฉ้อฉล รวบทรัพย์สินและทรัพยากรณ์ของชาติ และร่วมปล้นชาติกับทหารจปร.ไทย
บัดนี้เราจะไม่ยินยอมอยู่ภายใต้โจรพวกนี้อีกแล้ว เราจึงจัดตั้ง"องค์การปฏิวัติไท" อันเป็นของปวงชนไทที่รักชาติ ทั้งภายในและภายนอกประเทศ เราจะปกครองตนเองเป็นสาธารณรัฐ แบบของประเทศอเมริกา ซึ่งเป็นระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ที่สุดในภิพบแห่งหนึ่ง โดยเราก็จะเอามาเป็นแม่แบบอย่าง ทั้งทฤษฎี รัฐธรรมนูญ อุดมการณ์ที่เรามีเหมือนกัน ว่าทำไมเราจำต้องทำการปฏิวัติ
เราจะบูชาจิตวิญญาณบรรพบุรุษนักสู้ของเรา เช่นขบวนการกู้ชาติเสรีไทย และจะอัญเชิญดวงวิญญาณขององค์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชมาเป็นองค์ดวงประทีป นำขบวนการพวกเราในการต่อสู้ และนำประเทศไปให้ถึง
ความฝันที่จะให้เราและอนุชนรุ่นหลังมีอิสระ มีเสรีภาพ ดังที่พวกเราได้ไฝ่ฝันกันมานาน
ต้องยกยอดเรื่องการโจมตีแบบกองโจรตอนต่อๆไป เพราะอยากเล่าประวัติศาสตร์ยุคใหม่ ยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ว่าความสามารถทางทหาร การจัดตั้งหน่วยปราบคนร้ายในแผ่นดินเช่นกอรมน.นั้น ล้วนเป็นปฏิมากรรมจากการช่วยเหลือจากองค์การซีไอเอ ที่แผ้วถางทางให้มาทั้งความรู้ คำปรึกษา เครื่องไม้เครื่องมือ ที่พวกทรราชไทยยึดถือเป็นสรณะ และใช้กดขี่ผู้คนให้เป็นทาสในแบบรูปใหม่สมัยใหม่ ที่พวกมันทำกันปัจจุบัน
"หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง"....สู้พวกโจร ก็ต้องด้วยกองโจรเท่านั้น
พบกันใหม่ มาเรียนวิธีการฆ่า(ทหาร)กัน เพื่อป้องกันตนเอง ได้แห่งเดียวเป็นภาษาไทยที่นี่
โชคดีครับ
สวัสดีครับ
Last edited by ปาปียอง (November 22, 2018 5:17 AM)
Offline
AMBUSH-3
อย่างที่เกริ่นไว้แล้วว่าการซุ่มโจมตี ทางทหารนั้นมีหลายรูปหลายแบบมากมาย ศิลปการโจมตีที่ไม่ให้ข้าศึกรู้ตัว(unexpected)นั้นย่อมได้เปรียบเสมอ และการรบหรือฆ่ากันของการทหารนั้นต้องมีวินัย มีการวางแผน ตกลงกัน มีการซ้อมกัน แม้นับกันเป็นก้าวย่าง เวลาที่จะวิ่งจากจุดหนึ่งสู่จุดหนึ่ง แบบการวางแผนที่ทันสมัยนี้คือต้องอยู่ใน"กรอบเวลา-timing restricted" ที่การรบในเขตเมืองหรือที่ชุมชนหนาแน่นต้องมีการรวมตัวโดย"ฉับพลัน"-ปฏิบัติงาน(โจมตี)ทำลายอย่าง"ฉับพลัน-surprise attacking"-แยกตัวถอยหนี-ศิลปการซ่อนอาวุธ-การสลายตัวอย่าง"ฉับพลัน" นี่คือสงครามกองโจรยุคใหม่ ที่ใช้รบกันในตะวันออกกลางขณะนี้ สรุปสั้นๆว่าต้องใช้การปฏิบัติที่"ฉับพลัน"ทุกขั้นตอน ในเมื่อกองโจรขนาดเล็กเพียงไม่กี่คน (4-10 คน) มีความคล่องตัวลื่นไหลรวดเร็ว แต่ทำงานให้ได้ผลยิ่ง ในพื้นที่ที่ฝ่ายกองโจรไม่ได้มีอิทธิพลโดยเด็ดขาด(ซึ่งต้องรีบร้อน) คือทำการสังหาร หรือจับตัว(kidnap) หรือยึดอาวุธยุทโธปกรณ์สำคัญ แล้วแต่ภาระกิจ เกิดขึ้นเพียงระยะเวลาอันสั้นไม่กี่นาทีก็ลุล่วงแล้ว
แต่การฝึก การเตรียมตัวทุกขั้นตอน การวางแผนที่แยบยลฉลาดเฉลียว เลือกจุดสังหาร(KILL ZONE) ที่มีอำนาจการยิงสูงสุด(most concentrated firing power) ไม่ใกล้ที่ข้าศึกจะเห็นตัว ไม่ไกลกว่ารัศมีอาวุธที่จะใช้ต้องมีผลอย่างฉกรรจ์(เช่นปืนเอ็ม-16 รัศมีการยิงที่ได้ผลยาวกว่าปืนอาร์ก้า-47 แต่ควรอยู่ในระยะประมาณ 250 ฟุต เมื่อใช้สองอาวุธนี้ร่วมกัน)
สงครามกองโจรปัจจุบัน พวกกองโจรต้องหมายตาต่อจุดสำคัญในพื้นที่ หมู่บ้าน หรือเขตมีมวลชนแบบในเมือง(urban community) โดยพยายามหาจุดซ่อนตัว(cover and conceal) จุดพบปะแลกเปลี่ยนข่าวสาร(contact or meeting area) การซ่อนอาวุธ(conceal weapons) เช่นการแต่งกายหลวมๆ หรือมีเจ๊คเก็ตบางคลุมทับ มีถุงเช่นมือปืนป๊อบคอร์นใช้ซ่อนอาวุธได้ และซึ่งอาจจะเป็นบ้าน(safe house-ของฝ่ายเรา) ห้องเล็กๆ สวนสาธารณะ อาคารสาธารณะ ส้วมสาธารณะ ร้านอาหาร(ส้วมร้านอาหาร-ส้วมทุกแห่งสำคัญเสมอ ต้องรู้แจ้ง) ห้องสมุด วัด ศาลเจ้า โบสถ์ แม้แต่พุ่มไม้ ต้นไม้ใหญ่ที่รกชัฎ บ่อน้ำ หลุม และ สมัยก่อนใช้ถ้ำอย่างเอนกประสงค์ ฯลฯ สมาชิกกองโจรต้องสำรวจแสวงหาจุดที่ทำให้กองโจรได้เปรียบในการใช้ต่อสู้ ซ่อนเร้น(cover and conceal) ที่รวมกำลัง(rally point) การสื่อสารที่ฉับไว และใช้ทุกอณูของพิ้นที่และภูมิประเทศรอบตัว เอื้ออำนวยให้เป็นประโยชน์ต่อฝ่ายกองโจร จึงมีคำพังเพยว่า"ต้องรู้หน้าดิน เหมือนลายเส้นบนฝ่ามือตนเอง" สมาชิกกองโจรต้อง"สำรวจ-casing"พื้นที่การปฏิบัติการอย่างเข้าใจ และละเอียดที่สุด และจะมีบทพิเศษเรื่องนี้ทีหลังอย่างละเอียด
https://www.google.com/search?q=militar … AR6BAgBEAE
แต่ก่อนอื่นก็จะอธิบายบทเรียนขั้นพิ้นฐานของการซุ่มโจมตี จากภาพที่2ในคลิ๊บข้างบน ว่าเขามีหลักการฆ่าสังหารและสอนกันมาอย่างไร? ก็ต้องเรียนอัขระก.ไก่ ข.ไข่ก่อนนั่นเอง จากคลิ๊บข้างบนจะมีตัวอย่างเป็นภาพหลายภาพซึ่งควรอ่านพอเป็นตัวอย่าง รูปแบบ แล้วค่อยเอามาจินตนาการประยุคให้เข้ากับพื้นที่ ผู้คนรอบด้าน เป้าหมายที่ต้องการทำ การสื่อสาร อุปกรณ์และเครื่องมือ อำนาจการยิงจากฝ่ายเรา และแน่ละจากฝ่ายเขาเพราะเขาก็ถือปืนอยู่ในมือเหมือนกัน แต่การโจมตีของเรานั้นคือการสังหารที่ตอนข้าศึกกำลังประมาทเผลอไผลไม่ระวังตัว แบบตะลึงพรึงเพริด(surprise attack)ต่างหาก ซึ่งเพียงเสี้ยววินาทีแรกที่กระสุนฝ่ายเราลั่น และต้องออกมาพร้อมกันจากทุกกระบอกสู่เป้าหมายบน"พื้นที่สังหาร- KILL ZONE" ที่อยู่ตรงหน้าตัวเอง สัญญานการเหนี่ยวไกยิงที่พร้อมเวลาเดียวกันมาจากผู้บังคับหน่วยคนเดียวเท่านั้น การซุ่มยิงจะไม่มีผลและกลับเป็นอันตรายต่อทั้งทีมได้ทันที หากสมาชิกกองโจรเปิดฉากยิงโดยพละการ และจะเป็นการฆ่าตัวตายแทนที่เราเป็นฝ่ายฆ่าศัตรู ฉนั้นทหารกองโจรต้องมี"วินัย"ที่ต้องปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาโดยเคร่งคร้ด
สัญญาณการเปิดฉากยิง หากเป็นกลางวันและเป็นหน่วยขนาดเล็กใช้สํญญาณมือโบก อาจใช้ธงแดงเล็กๆ(แบบเวียตนามเหนือใช้) โบกขึ้นลง หรือใช้ยิงพลุส่องแสง หรือเปิดฉากการยิงโดยผบ.หน่วยอย่างธรรมดา สัญญาณหยุดยิงหรือถอยมักใช้เสียงนกหวีด เช่นถอยใช้เสียงสั้นๆสองครั้งและยาวสามครั้งเป็นต้น การใช้สัญญาณดังกล่าวพลพรรคกองโจรต้องเข้าใจ และปฏิบัติตามโดยเคร่งครัดไม่มีการผิดพลาด
ภาพแรกนั้นมีสิ่งประกอบไม่กี่ส่วน เป็นรูปการเดินของข้าศึกสู่"พิ้นที่สังหาร-" ออกมาเดินเป็นแถวเข้าสู่กับดักหรือเรียกว่า"พื้นที่สังหาร" นั่นเอง ฝ่ายเรามีจุดรวมกำลัง(rally point-) การวางกำลัง(หมายถึงมือปืนกองโจรแต่ละคน) อาจจะห่างกันช่วงระหว่างคน 10 - 20 เมตร แล้วแต่ภูมิประเทศ และกำลังคน-ชนิดอวุธที่มีอยู่ จุดที่2และ3ที่เป็นหน่วยสนับสนุน(seurity or support team) หน่วยสนับสนุนที่มีเครื่องหมายสามเหลี่ยม อาจแปลได้หลายอย่าง...เช่นเป็นปีกทั้งสองข้างระวังคอยสกัดหากข้าศึกตีโต้ตัดหลังแนวยิง(counter by penetating assualt line) หรือเป็นพวกกดระเบิด(land mines operator)ปิดหัวหรือท้ายขบวนข้าศึก..หรือใช้วิ่งข้ามไปทำลายข้าศึกในลักษณะปิดทางทั้งหัวท้าย หรือพวกที่เข้าสังหารพลขับรถที่เป็นคันนำหรือเป็นคันปิดท้ายขบวน หากมียานยนต์มาด้วย แน่ละกรณีย์รถยนต์หรือรถบรรทุกนายทหารมียศใหญ่มักนั่งมาข้างคนขับเสมอ มาถึงบันทัดนี้อยากขอพูดไว้สักอย่างว่าทหารน้องเณร(ทหารเกณฑ์)นั้น ส่วนมากเป็นชาวบ้านที่ถูกเกณฑ์ให้ถืออาวุธ หากสามารถที่จะยกเว้นที่จะทำลายก็โปรดยกเว้น แต่ต้องปลดอาวุธและค้นร่างกายเขาและทุกคนทันทีที่การยิงสิ้นสุดลง หลายคนจะล้มลง บาดเจ็บทั้งสาหัสและแสร้งทำเป็นตาย เราต้องตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรกับพวกเขา มีสามสิ่งสำคัญที่ต้องปฏิบัติทันที ประการแรกปลดอาวุธโดยเด็ดขาดและจับกุมม้ดมือเท้า(ด้วยซิ๊ปล๊อคพลาสติคที่นำติดตัวไป) มีการเสียชีวิตมาหลายกรณีย์แล้วที่ยังปล่อยให้ข้าศึกที่ล้มลงครอบครองอาวุธอยู่แม้แต่มีด สองยึดอาวุธยุทธพันธ์(แนะนำพกเลื่อนไฟฟ้าแบตเตอร์รี่ที่ตัดลูกกุญแจขนาดเล็กได้ในกรณีย์มียานพาหนะด้วย)เพราะคลังอาวุที่เป็นทั้งปืนและกระสุนมักอยู่ที่นี่ สามการสอบปากคำว่ามาจากหน่วยไหน ผบ.หน่วย ภาระกิจที่ถูกสั่งให้ทำ เอกสารทุกชนิดแม้บัตรประจำตัวต้องยึดหมด หากขัดขืนก็ให้พิจารณาเอาเองว่าควรทำอย่างไร
ขั้นต่อไปคือการถอยไปรวมตัวที่จุดนัดพบ(rally point) และขั้นสุดท้ายการสลายตัวไปเป็นประชาชนหรือชาวบ้าน นี่คือหลักการธรรมดาที่กองโจรใช้กัน
ในระยะแรกที่กองโจรยังไม่มีเขตปลดปล่อยของตนเอง จะจับคนบาดเจ็บไปพยาบาลและเพื่อซักถาม(interrogation)รายละเอียดเพื่อให้มีผลในด้านการข่าวเชิงลึกได้ เพราะเรามีฐานตัวเองมั่นคงในเขตปลดปล่อยแล้ว เราจะสงวนชีวิตเชลยไว้ เพราะเชลยมีประโยขน์มากต่อการข่าวกรอง และใช้แลกตัวกับฝ่ายเราที่ถูกจับในวันหน้านั่นเอง
ขอพูดเรื่องการสื่อสารสักนิดเพราะสำคัญมาก การสื่อสารสมัยเก่าเป็นเรื่องยุ่งยากมาก แต่สมัยนี้มีโทรศัพย์มือถือ การปฏิบัติการในการซุ่มโจมตีค่อนข้างสดวก หน่วย(หรืออาจเป็นเพียงคนเดียว)สนับสนุนส่วนหน้าซึ่งทำหน้าที่ลาดตระเวณ สามารถบอกรายละเอียดว่าข้าศึกเดินเท้ากี่คน มีอาวุธอะไรพิเศษบ้าง หรือใช้ยานยนต์แบบไหน ใช้เส้นทางไหน จะทำให้ฝ่ายเตรียมสังหารได้รายละเอียดดีมากและรวดเร็วทันใจขึ้น และวางกับดักทั้งบุคคลและอาวุธได้อย่างถูกต้อง และมีผลมากขึ้น ส่วนรายละเอียดเรื่องโทรศัพย์จะถูกดักฟังนั้น จะไม่ขอกล่าวถึงในตอนนี้ กองโจรควรใช้การติดต่อเป็นโค๊ดไม่ใช้ศัพย์เปลือยๆ และหรือมีการเปลี่ยนซิม(sim card)ในโทรศัพย์ทุกครั้งที่กระทำการ หรือมีซ้อฟแวร์ที่ค่อนข้างมีผลให้ปลอดจากการดักฟังยิ่งเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แต่สรุปแล้วว่าการสื่อสารสมัยนี้ได้สร้างความสะดวกแก่กองโจรให้ทำงานได้รวดเร็วถูกต้อง สำเร็จผลดีเสมอ
บทสรุปบทแรกที่เข้าใจการซุ่มโจมตี(military ambush)จากตำราพื้นฐาน ใช้กับหน่วยขนาดเล็กระดับหมู่ และหมวด(สองหมู่-หรือ 4 - 10 คน) การจัดตั้งกองกำลังสังหาร(MANTRAPS) พื้นที่สังหาร จุดรวม จุดถอย(อาจจะเป็นจุดเดียวกับจุดรวมพล หน่วยหนุนทั้งปีกซ้ายและขวา โดยเฉพาะกอง(หรือเพียงคนเดียว)ระวังหน้าที่คอยรายงานรายละเอียดการเดินทางของข้าศึกมาสู่พื้นที่สังหาร(KILL ZONE) การเปิดฉากโจมตีและลั่นไกพร้อมกัน การเข้าตรวจค้นจับกุม ยึดอาวุธยุทโธปกรณ์ การซักถามและยึดเอกสาร จะทำอย่างไรกับข้าศึกที่จับได้และบาดเจ็บ การถอนตัวออกไปสู่จุดนัดพบ(rally point-) การซ่อนอาวุธที่จับได้(weapons concealment) และการสลายตัว(disbanding)ในที่สุด
แต่ในทางปฏิบัติจริงนั้น การเตรียมตัวเป็นสิ่งสำคัญมาก บางหน่วยมีอุปกรณ์มากมายนอกจากอาวุธประจำกาย ปืนพก มีด ผ้าผูกคอ เชือก เครื่องปฐมพยาล าลฯ ที่นำติดตัวไป เพื่อความสดวกใช้งาน เฉพาะกิจ ในทางปฏิบัติทหารที่เดินเท้ามักจะไม่เดินมาให้ยิงเป็นแถวเป็นแนว แต่จะถือปืนเล็งพร้อมยิงไปทั้งสองข้างทาง และเมื่อโดนโจมตีก็จะล้มตัวลงยิงตอบโต้ หรือตีทะลุตัดแนวยิงของเรา หน่วยหนุนทั้งสองปีก(ในภาพเป็นรูปสามเหลี่ยม-SECURITY TEAM) ต้องทำการสกัดกั้นให้ได้ การสู้รบที่ไม่มีแนวเป็นเสันตรงย่อมเกิดขึ้น แต่อย่าลืมว่าผู้ซุมโจมตีนั้นได้เปรียบมากกว่าหลายเท่า เพราะการซุ่มโจมตีเป็นเรื่องตอนข้าศึกเผลอไผล ไม่คาดคิด (surprise attacking)นั่นเอง
วันนี้เรียนก.ไก่ ข.ไข่ไปก่อน เพื่อปูทางล่วงหน้าเอาไว้ว่าการฆ่ากันของพวกทหารเขาทำกันอย่างไร?
เราถูกพวกโจรปล้นแล้วยึดครองบ้านเรา ทางแก้แบบ"หนามยอกเอาหนามบ่ง" ... ก็ต้องแก้ด้วยวิธีใช้กองโจรดักฆ่าโจรนั่นเอง พวกโจรถูกซุ่มโจมตีสองสามครั้งมันก็ต้องถอนหนี
แต่ในการศึกสงครามปลดแอก เราไม่สามารถหยุดนิ่ง กลับมีการเตรียมการที่จะมีกำลังเพิ่มขึ้นเข้ามาร่วมทุกด้าน เหมือนเมาเซตุงปีสุดท้ายที่เผด็จศึกผลักพวกก๊กมินตั๋งตกทะเลไปเกาะไต้หวัน(1 ตค. 1949) หรือตอนนายพลวอชิงตันพิชิตศึกที่เมืองยอร์คทาวน์ รัฐเวอร์จิเนียร์(19 ตค. 1781) ที่สามารถล้อมจับเชลยทหารอังกฤษได้ทั้งกองทัพ(7,685คน) จากอำนาจกองทัพที่เริ่มจากประชาชนที่ยังไม่มีรองเท้าและยังใช้ปืนแก๊ปล่าสัตว์อยู่ รบกับทหารมหาอำนาจโลกอังกฤษสมัยนั้น
เป็นชัยชนะอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ล้วนเกิดจากกองโจรขนาดเล็กขั้นพื้นฐานมาก่อนทั้งสิ้น
โปรดติดตามตอนต่อไป
โชคดีครับ
Last edited by ปาปียอง (November 20, 2018 11:15 AM)
Offline
AMBUSH-4
รูปแบบการวางแผนโจมตี(category of ambush)ทั่วไปที่คนร้ายใช้บนถนนปัจจุบัน ซึ่งหน่วยสวาท(SWAT-Special Weapon Attack Team)ของอเมริกาใช้เป็นเรื่องคดีตัวอย่าง ในการวิเคราะห์เพื่อศึกษาและหาทางแก้ไข หน่วยสวาทเป็นหน่วยรบพิเศษของตำรวจที่ใช้เข้าปะทะคนร้าย หรือผู้ก่อการร้าย ที่เป็นวิธีการเปิดฉากการโจมตี(open attack) ที่เกิดขึ้นทุกแห่งในอเมริกาปัจจุบัน ซึ่งก็ใกล้เคียงกับหลักการของที่ฝ่ายทหารใช้ และรู้มาประมาณครี่งศตวรรษมาแล้ว ก็เอามาเตือนความจำกันอีก
1) การใช้การโจมตีแบบก่อกวน(Raiding) ไม่ค่อยหวังผลในเชิงทำลายแก่ชีวิต แต่เป็นการขู่ขวัญ ทำให้เกิดพะวักพะวน หน่วยทหารไม่ได้นอนพักผ่อนได้เต็มที่
2) การวางแผนอย่างแนบเนียนและตั้งใจ(Deliberate)เพิ่อสังหาร
3) การโจมตีแบบเน้นเฉพาะจุด(Point Ambush) หรือเพียงบางจุด
4) การโจมตีแบบครอบคลุมพื้นที่(Area) เช่นป้อมค่ายทหารขนาดเล็ก หรือจุดตรวจ เช่นการปล้นค่ายทหารกองร้อยปืนเล็กที่2 ฉ.ก.เมื่อ 4 มค. 2547 ที่ค่ายปิเหล็ง จ.นราธิวาส ทำลายทหารเสียชีวิต 16 นาย และยึดอาวุธปืนไปได้ 400 กระบอก อีกครั้งเมื่อ 9 มค. 2554 คนร้ายเข้าตีฐานตอนเที่ยงคืน ทหารเสียชีวิต 6 ศพ อาวุธถูกยึดไป 50 กระบอก ที่เหลือแตกหนีไป เป็นเหตุการที่สุดอดสูของกองกำลังสามจังหวัดภาคใต้ จะเห็นได้ว่าฝ่ายโจมตีเข้าปล้นค่ายทั้งสองโดยได้สำรวจและทำแผนที่อย่างละเอียด(casing) แบบมืออาชีพวางแผนและแฏิบัติการ ตอนเสียอาวุธ 400 กระบอกนั้น ตัวเลขน่าจะสูงกว่านั้นเพราะค่ายนี้เป็นที่เก็บอาวุธจำนวนมากขนาดกองร้อยหรือมากกว่า อาจถึง6-700 กระบอก คนร้ายเตรียมรถปิคอัพใหญ่รอไว้บรรทุกอาวุธ 2 คัน เข้าตีตอนหลังอาหารมื้อเย็น ตอนทหารเพิ่งกินอาหารเย็นเสร็จ ออกมาจากโรงเลี้ยงอาหารมาเดินยืดพุงเป็นกลุ่มๆ นัยว่าบางคนยังถือไม้จิ้มฟันอยู่ คนร้ายเปิดฉากการยิงและสกด-สกัดทหารที่ส่วนใหญ่ปราศจากอาวุธในมือ(เอาตอนเผลอ-surprise attack) ค่ายจึงถูกปล้นเอาง่ายๆ
5) การซุ่มโจมตีตามแบบทั่วไป(Common Formation) เหมือนภาพที่2ข้างบน ที่กำหนดพิ้นที่สังหารเป็นระยะฉกรรจ์อยู่ข้างหน้า ซึ่งใช้มากที่สุด การฝึกทหารใหม่ก็ใช้ฝึกขนิดนี้เป็นหลัก
6) การซุ่มโจมตีแบบแนวแถวตรง(Linear Ambush) คล้ายๆกับแบบที่5 แต่วิถีระยะห่างออกมา
7) การวางกำลังโจมตีเป็นรูปตัว"แอล-L" คือมีปีกออกไปข้างใดข้างหนึ่ง หรือใช้ทั้งสองปีก สลับกันไป ชนิดนี้หากมีการเคลื่อนและหุบปีกจะเพิ่มอำนาจการทำลายมากขึ้น เพราะจะติดตามเป้าหมายที่พยายามถอยหนีห่างออกไป แต่หน่วยยิงต้องซักซ้อมให้ดี ไม่ยิงพวกเดียวกัน ทหารเวียตนามเหนือมักใช้หน่วยลาดตระเวนด้วยวิธีเคลื่อนที่ไปมา(dynamic) และพร้อมไล่ติดตาม อย่างมีประสิทธิภาพสูงมาก พวกทีมเฝ้าถนน(RWT-Road Watching Team)อย่างกรณีย์พลเอก พันลภ ปิ่นมณีเคยโดนในสงครามลาว ตอนมียศร้อยตรีหรือร้อยโท ต้องวิ่งหนีตายจากการถูกปราบปรามจนป่าแทบแตก นั่นคือทหารจปร.7 ที่เคยออกรบมารุ่นแรก แต่ตอนหลังกลับใช้วิธีมัดมือชาวบ้านที่ไม่มีอาวุธแล้วฆ่า เช่นกรณีย์เหตุการที่ตากใบ นราธิวาส หรือฆ่าผู้ต้องสงสัยเป็นคอมมิวนิสต์ แล้วถึบศพใส่ถังแดง 200 ลิตรแล้วเผาที่จ.พัทลุง ฯลฯ นี่หรือคือวีระกรรมของทหารจปร.ไทย ซึ่งมีรุ่น 7 นี้เองที่กล้าทำกับคนไทยตาดำๆที่ไม่มีอาวุธ เป็นวีระกรรมที่สุดบัดซบต่างหาก !! ซุ่มโจมตีจากระยะไกล(Far Method)เกินกว่า 150 เมตร ใช้เป็นกับดักขนาดใหญ่ อาจวางกำลังโจมตีแบบอักษร แอล-L หรือ วี-V โดยมากจะใช้อาวุธขนาดกลาง(ขนาดปืนกล 60 มม. หรือปืนกลหนัก 50 มม.ตั้งฐานบนรภจี๊ป หรือรถปิคอัฟขนาดเล็ก ) 3-4 จุด โดยมีที่หัว-ท้าย และส่วนกลางขบวน
9) ซุ่มโจมตีระยะใกล้(Near Ambush) ประมาณ 75 เมตรลงมา
เรื่องเลือกอาวุธจะใช้ในการซุ่มโจมตีให้เข้ากับงานและเหมาะสมต่อภูมิประเทศ ต้องคำนึงถึงแรงยิงสังหาร(firing power) ความคล่องตัว ภาระกิจ ความปลอดภัย และ ฯลฯ ต้องมีการสำรวจพิ่นที่ และรู้พิ้นที่อย่างละเอียดที่สุดเป็นเรื่องหลัก
ตอนนี้เขตในเมือง(Uban area)ก็จะมีกล้องปิดวงจร(CCTV)ทั่วไป กองใจรต้องรู้ตำแหน่งแหล่งที่ และเตรียมหมวกฮู๊ดปิดหัวและหน้า ควรสำรวจไม่ใช่หมู่บ้านเดียวแต่สลับทีมใช้งานตลอดไปทั้งอำเภอ รูัภูเขา เนิน ลำธาร เส้นทางเดินทุกชนิดในพื้นที่ ที่เดินทางกลางคืนชำนาญ-คล่องแคล่วได้เหมือนกลางวัน กล้องใช้ส่องกลางคืน(night binoculars-star light scope)ต้องมีหากเป็นการปฏิบัติการตอนกลางคืน
อย่าลืมว่าในประเทศโลกเสรีเขามีข่าวสารทุกชนิดเกี่ยวกับอาวุธ กระสุน แม้การประกอบระเบิดชนิดต่างๆ อย่ากลัวที่จะเปิดอ่านหาความรู้ให้เต็มเปี่ยม การเป็นทหารไม่จำเป็นไปเรียนในโรงเรียน 5 ปีเหมือนพวกจปร. เรียนมาแล้วล้วนทำงานการรบอันเป็นภาระกิจของทหารในห้องแอร์ จนได้ยศชั้นสูงสุดเป็นหมื่นคน โดยไม่เคยออกไปยิงหรือรบกับใคร เคยเห็นแต่พวกนายพันนายพลจปร.ไทยถือกันแต่ปากกา รายงานนั่นนี่ หาผลประโยชน์ประจบให้นาย เอาแต่นั่งวางแผนฆ่านกในกรง ตกปลาในบ่อตัวเอง ตีแต่ก๊อล์ฟ พูดคำโตกวนตีนชาวบ้านเก่ง โกงเก่ง กินบ้านกินเมืองไปจนตาย
เคยเห็นทหารและแม่ทัพนายกองเก่งๆมีชื่อเสียงก้องโลก ที่ไม่ได้เข้าโรงเรียนทหารมาก่อน หรือฝึกเรียนไม่มากแต่เป็นนักรบและเป็นแม่ทัพที่สามารถ มีชื่อเสียงโด่งดังเช่นนายพลวังปาวของคนม้ง หรือโวเวียนเกี๊บของเวียตนาม หน.กองโจรในตะวันออกกลางผู้ริเริ่มขบวนการไอซิส อาลคาวารี(เสียชีวิตในสนามรบ) คนปัจจุบัน แบกแดดดี หรือจะเป็นอดีตหน.พีแอลโอยัสเซอร์ อาราฟัต อดีตนายกรัฐมนตรีของอิสราเอล เบนาเค็ม เบกิน และยิสฮัค ชเมียร์ และอีกมากมาย ที่ศัตรูเรียกกบฎและหรือผู้ก่อการร้ายมาก่อน แต่ประชาชนในประเทศนั้นๆยกย่องเป็นวีรชนกู้ชาติของเขา ล้วนมีความตั้งใจจริงที่จะเป็นผู้นำ เป็นนักปฏิวัติ รักชาติ รักประชาชน และไม่จำเป็นต้องผ่านโรงเรียนทหารใดๆเลย
โปรดอย่าลืมวีรกรรมของคนแซ่แต้..สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่องค์การปฏิวัติไท ยกเอาไว้เป็นดวงประทีปนำการปฏิวัติของเรา ดูเหมือนว่าประชาชนทุกส่วนทั้งประเทศพากันให้สัญญาว่าพร้อมแล้ว
หวังว่า"องค์การปฏิวัติไท"อาจจะได้ผู้นำและคณะผู้จะลงเรือปฏิวัติลำน้อยนี้ร่วมกัน อีกคงไม่นานเกินรอ
โปรดติดตามตอนต่อไป
โชคดีครับ
Last edited by ปาปียอง (November 22, 2018 6:22 AM)
Offline
RAP AGAINST DICTATORSHIP - ประเทศกูมี
การดู 39,883,975 ครั้ง https://youtu.be/VZvzvLiGUtw
Offline
วันลอยกระทง คิดถึงบ้านจนน้ำตาหยดไหล
ลืมเรื่องฆ่าสัตว์ตัดชีวิตพวกเหี้ยสักวัน เพราะวันนี้เป็นวันสุขสันต์ของคนไทย ที่ได้รื่นเริงกันคืนเพ็ญเต็มดวง หากอยู่ดึกก็จะเห็นจันทร์สองดวง ดวงหนึ่งพยาบเผยอตามแรงคลื่นกระเพื่อม ในกลางแม่น้ำเจ้าพระยายามน้ำเต็มตะลิ่งที่ท่าพระจันทร์เวียนมาบรรจบอีกครั้ง
....ขอเชิญน้องแก้วออกมารำวง...รำวงวันลอยกระทงๆ...ผลจะส่งให้เราสุขใจๆๆ...
https://youtu.be/IaUIgSlidB8?t=84
นัยว่าเพลงนี้แต่งตามขอร้องจากคณะปฏิคมจัดงานลอนกระทงที่ม.ธรรมศาสตร์ปี 2492 โดยครูแก้ว อัจฉริยกุล และให้ทำนองโดยสุนทราภรณ์ ใช้เวลาทั้งแต่งเนื้อร้องและให้ทำนองเพียงชั่วโมงกว่าๆ และก็ซ้อมรำกันเย็นวันนั้นจนพระอาทิตย์ตกดิน ใช้งานได้คืนนั้นเอง อังเดร หริวอูห์จึงหยิบมาบรรเลง จนงดงามไปทั่วโลก แต่ที่น่าฉงนที่ครูแก้วแล้วครูสุนทราภรณ์ช่างจีเนียสทางดนตรีเสียสุดประมาณ ....."บ้านกูก็มี"
เพลงคิดถึงบ้านหรือ"เดือนเพ็ญ" ของนายผีเช่นกัน สงสารเขาต้องเสียชีวิตในลาวใกล้เมืองหลวงพระบาง ยามทุกข์ยากทั้งสุขภาพและสิ่งรอบตัวรอบด้าน ที่ตอนนั้นพรรคคอมมิวนิสต์ในอินโดจีนแตกกัน เพราะจีนแดงรบกับเวียตนาม และจีนเกิดเชื่อฝ่ายเจ้าไทย ยอมฆ่าและลอยแพลูกตัวเอง ให้หมดที่พึ่ง ความระส่ำระสายและจำยอมต้องมอบตัวโดยดุษณียภาพ แต่ไม่ใช่อัสนี พลจันทร์ เขาเป็นผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ไทยที่เลือกตายนอกประเทศ....อย่างอ้างว้างเดียวดาย หากรู้เรื่องนี้ตอนนั้น จะเอาฮ.ไปรับ ไปนอนเล่นด้วยกันสักสองสามคืน เพื่อให้สหายผีได้กลับไปมาตุภูมิสมดังเพลงตอนจบ
อย่าลืมสหายร้อย วัฒน์ วรรลยางกูร กำลังอยู่ที่นั่นอย่างโดดเดี่ยว น่าเป็นห่วงเช่นกัน ชีวิตทางอุดมการณ์ที่สุดเอกเทศและสุดเสรีที่กล้าแข็ง เทียบเท่ากุหลาบ สายประดิษฐ์เลยละ และอ.หวานกำลังเจริญรอย ทั้งสามสี่ท่านละม้ายคล้ายคลีงกัน
https://youtu.be/oVxoA0epfe0?list=RDoVxoA0epfe0&t=57
ตอนนั้น ยุคนั้น ครานั้น เป็นการทรยศจากจีนครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ ต่อการสู้รบปลดแอกของคนไทย ที่คำสัญญาของจีนอัปยศที่สุด ...ลูกหลานอย่าลืม
https://youtu.be/Eb-lzTh_klA?t=34
https://youtu.be/_mwXsRKRyaw?t=1992(ไม่ … และนักร้อง แต่ร้องเพลงรำวงของเราพวกรากหญ้าได้โฆตรมัน เกือบพอกับสุรพล สมบัติเจริญเลยเทียว....สำหรับเป็นเพลงรำวงวันลอยกระทง)
https://youtu.be/uRaV77_w2_0?list=RDEb-lzTh_klA&t=49
https://youtu.be/EYZMATh-s_w?t=47
https://youtu.be/qyyI-QeHFNE?t=8
ขอเพื่อนๆได้มีโอกาสปลดปล่อยทุกข์ ให้ไปกับกระทงอธิษฐาน ในวันคืนเพ็ญวันนี้
เพราะมันจะไม่ให้เลือกตั้งอีกแล้ว จัดตั้งกองโจรกันเถอะ อย่ารออีกต่อไป
ขอให้โชคดี มีความสุขสงบ
พบกันใหม่ครับ
Last edited by ปาปียอง (November 25, 2018 1:19 PM)
Offline
ดูคนค่างประเทศเขาว่าอย่างไร https://youtu.be/4jEMoqtCm08
Offline
การต่อสู้ดีเดย์วันที่ 5 ธันวาคม 2561ขององค์การสหพันธรัฐไท
หลังจากโหมโรงมาสองสัปดาห์เรื่องแต่งชุดดำหรือใส่เสื้อดำเนื่องในวันเกิดเกิดครบ 91ปีของร.9 และก่อนหน้านั้นตือโป้ยก่าย(หมูฮาวาย) รมต.กลาโหมและหน.รักษาความปลอดภัยของคสช. สั่งจับแม่ค้าและบุคคล 2-3 คนที่ใส่เสื้อดำ มีตราโลโกธงแดงขาวที่หน้าอก หาว่าเป็นเสื้อและธงขององค์การแยกดินแดนนอกกฏหมาย ศัตรูของประเทศ แล้วเรื่องก็เงียบหายไปโดยรวดเร็ว แต่ก็ได้สร้างชื่อเสียงเด่นชัดต่อองค์การ เป็นที่ฮือฮากันมากระทั่งปัจจุบัน
ท้าวความหลังไปถึงการพยายามขององค์การนี้ ซึ่งได้ประกาศจะทำลายขัดขวางตอนราชพิธีศพที่ท้องสนามหลวงวันที่ 26 ตุลาคม 2560 โดยให้สมาชิกองค์การสหพันธรัฐไทในระหว่างพิธีก่อความวุ่นวายต่างๆดังที่องค์การแนะนำ โดยโหมโรงล่วงหน้ามาหลายเดือน แต่ปรากฎว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย..แม้ปะทัดสักแปะเดียวก็ไม่เกิดขึ้นในครานั้น ถือเป็นความล้มเหลวโดยสิ้นเชิง
โปรดรับฟังคลิปต่างๆขององค์การสหพันธรัฐไทที่กระทู้รวมของคุณยุทธแอลเอ(usa.th)ซึ่งมีหลายคลิ้ปมาหลายวันแล้วในเว้ปนี้ ซึ่งองค์การสหพันธรัฐไทได้เตรียมตัวกันปฏิบัติการอารยะขัดขืน แบบลัทธิสันติอหิงสาของท่านมหาตมะคานธีแห่งอินเดีย โดยขอความร่วมมือจากประชาชน ให้พากันใส่เสื้อดำหรือชุดดำในวันที่ 5 ธันวาคม 2561...อีก 5 วันข้างหน้านี้เอง
ผลจะออกมาอย่างไรเป็นที่น่าสนใจยิ่ง บ้านเมืองกำลังพุ่งสู่ความเลวร้ายอย่างรวดเร็วทุกขณะจิต
เหตุการณ์เมื่อวานไม่เหมือนวันนี้ และคาดการณ์อะไรแทบไม่ได้อีกต่อไป เช่นพระรูปขี่ม้าอาจกองลงมากับพื้น เพียงแค่รถบรรทุกวิ่งผ่าน
นั่นคือสัญญาน"วิกฤตชาติ" ที่กำลังมาถึง
ขอให้โชคดีครับ
Last edited by ปาปียอง (November 30, 2018 11:41 AM)
Offline
มหากาพย์จำนำข้าว
เอามาเสนออีกทีขอท่านได้รับการพิจารณาว่าเป็นมาอย่างไร คดีนี้ให้บทเรียนแก่ทุกคนได้เยอะแยะ เหมือนนักโทษสองคนนั่งอยู่ใกล้กัน แล้วมองออกไปหน้าต่าง คนหนึ่งเห็นสวรรค์ที่เวลาตนหลุดออกมาจะทำอย่างไรกับชีวิตที่เหลือ แต่อีกคนมองเห็นแต่นรกอยู่เบื้องหน้า โดยเฉพาะพวกที่ปาวารณาว่า"จะขอเกิดมาเป็นข้าพระบาททุกชาติไป" ยิ่งนานวันจะกลายเป็นสัตว์ประหลาดต่อสังคม ที่ต่อแต่นี้จะมีการพัฒนาอีกหลายจี(G-digital generation)เพิ่มขึ้น และหากนรกมีจริง ยมพบาลคงไม่ให้พวกนี้ได้ผุดเกิดมาเป็นมนุษย์อีก เพราะมันเป็นตัวโง่กี่งมนุษย์(moron) ที่จะพัฒนาให้เหมือนเพื่อนมนุษย์ไม่ได้ และเป็นตัวถ่วงความเจริญของมวลมนุษย์ในโลก นี่คือที่มาของคำว่า"ทาสในเรือนเบี้ย" เพราะมันถูกสั่งสอนให้เอาลูกหลานเป็นทาสล่วงหน้าตลอดไปนั่นเอง
ประชาธิปไตยยุคภูมิพล มหิดลที่ใช้จปร.เป็นอาวุธ และพวกทักษิณ ชินวัตร คงได้สิ้นสุดกันหลังเลือกคั้งคราวนี้แน่นอน เพราะทรราชจะเบี้ยวพวกทักษิณที่อ้างประชาธิปไตยให้มีการเลือกตั้งอีก อย่างไม่ต้องสงสัยต่อไป และทักษิณอาจเลิกอวยเจ้าอีกต่อไป แต่นั่นไม่ใช่สิ่งสำคัญเพราะรู้กันอยู่แก่ใจว่าความจงรักภักดีของทักษิณนั้นไม่จริงมาตั้งแต่แรก แต่ลูกเมีย อสังหาริมทรัพย์ ผลประโยชน์ พรรค และพรรคพวกของทักษิณต่างหากที่เป็นไพ่กบดานที่แท้จริงของทักษิณ หาใช่เป็นรอยอลลิสต์ หลงใหลพวกเจ้าไม่ กาลเวลาจะพิสูจน์เอง
แต่ยุคนี้ซึ่งมีมา 11 ปีที่สองตระกูลนี้สู้กัน ประชาชนอดหยากยากแค้น และมีความเป็นอยู่อย่างไร้ความยุติธรรม และบางส่วนอ้างว่า"ตาสว่าง"แล้ว แต่ที่จริงกลับถูกหลอกต้อนไปสู่ที่กักขังที่มืดกว่าเก่าอีก ประชาชนต้องการเวลาที่จะเข้าใจอะไรอีกมากมาย และที่สำคัญคือต้องรู้ว่าอะไรที่จะให้ประโยชน์กับตัวเอง บ้านเมืองและลุกหลานต่อไป คำตอบคือไม่มีเลย ได้แต่เศษเงิน ความหวังเล็กๆน้อยๆที่เคยได้รับจากนักการเมืองและทหารจปร.หน้าเดิมๆจะมาหลอกอีก นักการเมืองพวกนี้พอได้เป็นรัฐบาล ก็ตั้งหน้าตั้งตาโกงหาทุนและกำไรคืนใส่กระเป๋าตัวเองเหมือนเดิม และเป็นมากขึ้นในตอนหลังๆที่ยุคทักษิณมีมา และขณะนี้ยุคคสช..... เรากำลังดิ่งสู่นรกโดยแท้ต่างหาก การเลือกตั้ง เลือกนักการเมืองผู้มีปรัชญาทางธุรกิจหากำไร เป็นหนักยิ่งขึ้น เราประชาชนล้วนถูกผลักไสว่ามีส่วนรับผิดชอบต่อประวัติศาสตร์ช่วงนี้อย่างไร? ก็ขอความกรุณาให้หาคำตอบต่อตัวเอง ..คิดให้นานๆว่า"ไผเป็นไผ" อย่ากลัวที่จะคิด
นำมาถึงคำถามว่าทำไมคนอเมริกันจึงปฏิวัติ สละชีวิตสู้กับกษัตริย์และกองทหารมหาอำนาจที่เกรียงไกรที่สุดในโลกขณะนั้น ทั้งๆที่ทหารชาวบ้านของตนยังไม่มีแม้รองเท้าใส่ทุกคน?
..ก็เพราะเสรีภาพ อิสระภาพอันยั่งยืนถาวร ของทุกคนที่เกิดและอยู่ในแผ่นดินนี้ดังคำปาวรณา....."จงให้อิสระภาพ(เสรีภาพ)แก่ฉัน หรือจงเอาชีวิตฉันไป- Give me Liberty, or give me Death"
" คือคาถาอาคมของทหารและคนอเมริกาในการต่อสู้กับทรราชอธรรมครานั้น และต่อมามาทุกยุคสมัย
ได้มาสัมผ้สอเมริกาและชีวิตในอเมริกาแล้ว จะยิ่งทำให้รักและนับถือพวกเขาไปอีกยาวนาน เขาเสียสละชีวิตปลดแอกตัวเองจากกษัตริย์และกองทัพอันเกรียงไกรคือกษัตริย์อังกฤษ และผ่านสงครามกลางเมืองที่สหพันธรัฐฝ่ายใต้(Southern Cofederacy) พยายามแยกดินแดนเป็นอีกประเทศต่างหาก ผู้คนคราวหนึ่งนี้เสียชีวิตเกือน1/10 ของประชากร(ตายประมาณ 1 ล้านคน ตอนประชากรมี 13 ล้าน) ระบอบประชาธิปไตยที่เขามีรัฐธรรมนูญเพียงฉบับเดียวมาตลอด เป็นเครื่องยืนยันและเป็นเสาหลักประกันสิทธิมนุษย์ชนในโลกเสรี อย่างมั่นคงถาวร มากระทั่งปัจจุบัน ประชาธิปไตยสร้างมาจากการเสียสละแม้ชีวิต ประชาธิปไตยที่สุดสวยงามที่แท้จริงต้องมาด้วยเลือดเท่านั้น ไม่มีความกล้าก็จงเป็นทาสพวกมันต่อไป ส่วนนักการเมืองแบบชินวัตรก็คงหมดสมัยในครานี้เอง ประชาชนจะเห็นเอง
https://youtu.be/qp610N3z0bU?t=50
https://youtu.be/GvVHAD-_2Fs?t=118
แม้ตอนนี้ก็เริ่มเปิดเผยแรงกระทบและทำลายจนท.พนักงานธนาคารผู้รับผิดชอบข้อมูลตัวเลข ต้องถูกกล่าวหาว่าเป็นบ้าหรือโรคประสาท จำต้องปลดออก ในอเมริกาเขาเรียก"คนเป่านกหวีด"(whistle blower) ไม่ใช่นกหวีดไอ้เทือกก.ก.ป.ส.นะ เพราะนั่นคือนกหวีดนรก เอาความระยำนำมาสู่แผ่นดิน โดยกรุยทางให้อ้ายประยุทธและคสช.ใช้เป็นข้ออ้างเพื่อยึดอำนาจ และได้กลายเป็นพวกทรราชที่เข้มข้นร้ายกาจ หน้าด้านที่สุดยิ่งกว่ายุคจปร.ครองไทยยุคใดๆ
โปรดลองฟังคลิบออกรายการของคุณจอมเพชรประดับดู ว่าเมืองกลาแลนด์ถึงคราววิบัติเพียงไหน
https://youtu.be/d-Ba9CoNXlM?t=324
ในอเมริกาพวกวิสเซิ้ลท์โบลเวอร์ผู้กล้าหาญที่เปิดเผยความชั่วร้าย หรือพวกวีระชนทหารเหยื่อสงครามผู้บาดเจ็บ เช่นวุฒิสมาชิกแทมมี้(ลัดดา) ดัคเวอร์ธ์(Senator Tammy Duckworth of Illinois) จอห์น แมคเคน โรเบอร์ต โดล และอีกมากมาย ฯลฯ นั้นเขายกย่องว่าเป็นวีรขน ไปสมัครเป็นสส.หรือเลือกตั้งอันใด ผู้คนก็จะเฮกันช่วยออกเสียงให้ แต่ของประเทศกลาแลนด์อาจติดคุกและตายในคุก เป็นอย่างนี้จนคนไทยต้องหุบปากเงียบ กลายเป็น"ธุระไม่ใช่" หรือ"รักษาตัวรอดเป็นยอดดี" หรือ "นิ่งเสียตำลึงทอง" หรือ "แพ้เป็นพระ ชนะเป็นมาร" ฯลฯ ศาสนาและปรัชญาของเราถูกนำมาประยุคโดยพวกเจ้าในหลายๆเรื่อง และหลายสถานะการณ์ จนสามารถปราบคนไทยให้อยู่หมัด โดยสร้างค่านิยมความหวาดกลัวในสมองคนไทยใหม่ดังกล่าว และกลายเป็น"อาณาจักรแห่งความกลัว"ไปในทุกเรื่องและชีวิตประจำวันเป็นมาอย่างนี้ชั่วอายุขัย ทำให้เกิดในชีวิตผู้คนประเทศนี้ตั้งแต่อ้อนแต่ออกจากครรภ์มารดา ยิ่งอยู่นานยิ่งคิดได้มาก-คิดได้หนัก-ละเอียดอ่อน และก็ยิ่งเพิ่มความกลัวมากขึ้น และอยู่ในสภาพจำยอม นั่นคือความสัมฤทธิ์ผลในการล้างสมองและครอบหัวมนุษย์ผู้นั้นมาตั้งแต่เกิด สู่สุสานสวรรค์ที่ตนหวัง นี่คือชีวิตคนไทยส่วนใหญ่ที่ยากจะแก้ไขได้ เพราะเป็นสสารไม่รู้จักร้อน เป็นสารที่แทบไม่มีคุณค่า
เป็นประเทศอื่นเขาลุกขึ้นมาสู้ ขับไล่ทรราชกษัตริย์และทหารจปร.ของมัน และสำเร็จโทษไปนานแล้ว การสำเร็จโทษคราต่อไปคือการทำลายอย่างถอนรากถอนโฆตรให้หมดสิ้น เริ่มด้วยการแผ้วถางให้วัชพืชบางตาหรือทำให้เตี้ยลง แล้วฆ่ามันด้วยวิธีเคมี แล้วเผาดินซ้ำ เหมือนวลาดิเมีย์ เลนิน และลีออน ทร้อทสกี้ทำกับราชวงศ์โรมาน้อฟของรัสเซียสมัยปฏิวัติ ไม่ให้มันมีโอกาสงอกขึ้นมาได้อีกต่อไป
จากองค์การปฏิวัติไท
Last edited by ปาปียอง (December 4, 2018 5:41 AM)
Offline
โจรปล้นโจร
วัดพระธรรมกายถูกยึดโดยดีเอสไอ(บัญชาโดยคสช.) เป็นเรื่องสะเทือนใจของคนชาวพุทธ โดยเฉพาะขบวนการศิษย์พระธรรมกายและที่แท้คือพระธัมมชโยผู้เป็นเจ้าอาวาส ที่มีสถาบันการเงินกึ่งธนาคารสหเครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นเป็นเครื่องมือในการปั่นเงินและฟอกเงินการบริจาค รวมทั้งการหมุนเงิน ยักย้ายถ่ายเทเงินสีอะไรให้ฟอกออกมาเป็นสีขาว ซึ่งเป็นรายได้ที่บริสุทธิผุดผ่องจากความศรัทธา ของพุทธศาสนิกชนที่มีความศรัทธาต่อวัดแห่งนี้ พยายามติดตามเรื่องวัดพระธรรมกายมานานกว่าสิบปีแล้ว เพราะเคยเป็นศิษย์หลวงพ่อสด(สด มีแก้วน้อย -พระมงคลเทพมุนี-สด จนทสโร)วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ที่เคยภาวณา"ส้มมาอรหังๆๆๆ..." ซึ่งเป็นการกำหนดจิตให้มีพลังแบบหนึ่ง..นั่นคือการเพ่งกสิณเริ่มจากเพ่งที่"ดวงเทียน" แล้วดึง(จินตนาการ)ภาพดวงเทียนให้ไกล-ใกล้ จนรู้สึกใบหน้าร้อนแทบไหม้ด้วยเพลิงจากดวงเทียน เมื่อกำหนดจิตว่าเปลวเทียนอยู่ใกล้ดวงตา หรือที่แท้เป็นอุบายสาขาหนึ่งของสมถะกรรมฐาน ซึ่งมีน้อง(แต่กลับดังยิ่งใหญ่ปัจจุบัน)คือ"วิปัสสนา"นั่นเอง นั่นคือหลักทางปฏิบัติของศาสนาพุทธสองชนิด ที่พระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนใช้เป็นพื้นฐานในการทำความเพียรภาคปฏิบัติ เป็นหลักใหญ่ตลอดมายาวนาน่
สมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์เมื่ 25 ตุลาคม 2503 ใช้จนท.ตำรวจ-ทหาร 3,600 นาย บุกจับพระพิมลธรรม(อาจ อาสภเถระ) เจ้าอาวาสวัดและอธิการบดีสงฆ์มหาธาตุ กทม.ในข้อหามีการกระทำเป็นคอมมิวนิสต์ และกระทำอันตรายต่อความมั่นคงของรัฐ เพราะท่านเริ่มสอนวิธีทำวิปัสนา-วิธีทำความเพียรแนวใหม่ที่นำมาจากพม่า มีผู้คนนิยมเข้าหาและร่วมปฏิบัติวิปัสสนากันมากอย่างกว้างขวาง อย่างไม่เคยมีมาก่อน แล้วบังคับให้สึก แต่พระพิมลธรรมปฏิเสธลาสิขาบท ยอมให้ชักสบงจีวรออกจากร่าง แต่ท่านห่มขาวในคุกและปฏิบัติจิรวัตรดังสงฆ์อย่างเคร่งครัด จนท่านได้รับการปล่อยตัว 5 ปีต่อมา และเมื่อ 31 พค. 2518 รบ.ไดัคืนสมณศักดิ์พระพิมลธรรมให้เป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยสงฆ์เช่นเดิมอีก นับเป็นความผิดพลาดอย่างร้ายแรงต่อทรราชทหารจปร.ไทย จอมพลสฤษดิ์ตายและผู้ร่วมจับกุมหลายท่านอยู่อย่างอายุสั้น และก่อนตายยอมรับว่าเป็นความผิดอย่างยิ่งใหญ่ที่ได้ทำเรื่องนี้ลงไป
สมถะกรรมฐานของหลวงพ่อสดวัดปากน้ำนั้นเป็นแบบกรรมฐานเก่าแก่ มุ่งไปในแนวทางอิทธิฤทธิ์และอภินิหารที่อธิบายไม่ได้ เช่นการลุยไฟเท้าเปล่าบนถ่านแดงๆ แล้วมีความรู้สึกเย็นจัดเหมือนเหยียบบนก้อนน้ำแข็ง อีกตัวอย่างเคยเห็นพระ(หรือ)เณรตัวเล็กๆท่านหนึ่งกระโดดขึ้นไปสู่ยอดเจดีย์ แล้วเกาะติดอยู่ลงเองไม่ได้ต้องใช้กระไดช่วยลงมา ไม่รู้แหกตาหรือเปล่า? เห็นถ่ายภาพลงหน้านิตยสารชนิดศาสนาและอภินิหารหลายสิบปีมาแล้ว อภินิหารต่างๆอีกมากมายคงโกหกมั่งจริงมั่ง ฯลฯ ซึ่งหลวงพ่อธ้มมชโยเอามาประยุคเข้ากับการทำวิปัสนามาสอนศิษญานุศิษย์ของวัดพระธรรมกาย จนเป็นที่โด่งดังตราบเท่าทุกวันนี้
อ.สุลักษณ์ ศิวรักษ์เป็นผู้คงแก่เรียนและเป็นปัญญาชนทางพระพุทธศาสนา เคยออกสอนเป็นอาจารย์ทางพุทธศาสนาตามมหาวิทยาลัยดังๆในสหรัฐอเมริกามาก่อนหลายครั้ง ได้ประกาศบอกมหาชนว่าพระธ้มชโยนั้นต้องปราชิกขาดศีลจากการเป็นพระสงฆ์ไทย ต้องปราชิกข้อที่สองและข้อที่สี่ ข้อสองคือ-ลักทรัพย์เกินห้ามาสก และข้อที่สี่คืออวดอุตริมนุสธรรม คือธรรมที่ไม่รู้แต่อ้างว่ารู้..เช่นการใบ้หวย โหรทำนาย นั่งทางในไปสู่ยมพบาลแล้วบอกว่าญาติพ่อ-แม่-บรรพบุรุษ ตกอยู่นรกขุมไหน และต้องทำบุญบริจาคให้หลวงพ่ออย่างไรจึงจะทุเลาลงได้ หรือหากเกิดบริจาคมากพอ หลวงพ่อก็อาจขอยมพบาลส่งสู่สวรรค์ไปเลย ฯลฯ และอีกหลายวิธีการที่พระสงฆ์ปัจจุบันใช้เป็นเหยื่อล่อแมลงวันมากมายหลายชนิด เพื่อลาภยศสรรเสริญ
แต่เมื่อมีเหตุจัดตั้งสถาบันการเงินกึ่งธนาคารเครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นในวัดเกิดขึ้น อย่างแน่ชัดว่าพระธ้มมชโยที่แท้เป็นพระที่มีธนาคารเซ็งลี้เองในวัดนี้นั่นเอง อ.ส.ศิวรักษ์จึงออกมาโต้กับพระผู้ใหญ่ที่มีความคลุมเคลือขาดความบริสุทธิ์ในสงฆ์ไทย โปรดชมคลิปที่ว่า"เมื่อพระมีเงินก็เกิดความเงี่ยน" เพราะส.ศิวรักษ์ไม่เคยไว้หน้าพระอลัชชีอย่างเด็ดขาด(ว่ายังงั้น)
https://youtu.be/axxU3T9mrRQ?t=62
https://youtu.be/sH_NzEjRhTc?t=382
https://youtu.be/n3naESeT_TM?t=22
https://youtu.be/U-i6LsXT1SI?t=137
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD … 5%E0%B8%B4
อ.ส ศิวรักษ์ เป็นบุรุษผู้พูดจารุนแรงเรื่องศาสนา แต่ไม่พูดเรื่องเจ้าเด็ดขาดเพราะถูกฟ้องทุกที แก่แล้วไม่อยากต้องหนีออกนอกประเทศอีก นั่งจิบไวน์เมอลอท์นิ่มๆอ่านเขียนหนังสือที่บ้าน ที่ก๋วยเตี๋ยวปากตรอกหน้าบ้าน แสนอร่อยกินไม่เบื่อ ครั้งล่าสุดที่ถูกฟ้องม.112 จากสองนายพลยศพลโทจปร.ไทย เรื่องการชนช้างที่ดอนเจดีย์ สุพรรณบุรี ซึ่งกองทัพบกถือว่า"เป็นวันเกิด 18 มกราคม"ของกองทัพบกว่า" อ.ส.ศิวรักษ์อภิปรายที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่า"ไม่มีการชนช้างจริง" แต่ต่อมาอ.สอเห็นว่าภัยใกล้ตัวจึงขอเข้าเฝ้าร.10 และได้รับพระราชทายอภัยโทษให้ เพราะไม่ได้เจตนาดูหมิ่นพระนเรศวร อดีตบูรพกษัตริย์กู้ชาติ ที่พ่อตัวคือพระธรรมราชาทรยศต่อราชอาณาจักรไทยและพ่อตา(พระเจ้าจักรพรรดิ์) ไปอ่อนน้อมยอมเป็นเมืองขึ้นต่อบุเรงนองกษัตริย์พม่า เพื่อตัวเองจะได้ครองราชที่กรุงศรีอยุธยาแทน โดยให้พระนเรศวรไปชุบเลี้ยงเป็นตัวประกัน
พวกโจรที่เข้าไปปล้นโจรในวัดใหญ่พระธรรมหายคราวนี้ คงไม่ต้องอธิบายว่าเป็นพวกไหน เพราะพวกมันปล้นประเทศนี้มาหลายครั้งโดยเฉพาะกลุ่มล่าสุดเมื่อเกือบห้าปีแล้ว และกำลังหาทำการปล้นสถานที่มีเงินมากๆต่อ โดยแสร้งให้มีการเลือกตั้งสลับฉาก หรือหากทำท่าจะสู้ไม่ได้ ก็จะหาเรื่องล้มกระดานอีก หาว่าประเทศวุ่นวาย จะโดยวิธืไหนไม่สำคัญ ก็เพื่อจะได้อ้างต่อโลกว่ารัฐาธิปไตยของประชาชนไทยได้มอบหมายให้พวกมันสืบอำนาจต่อ จะได้ใช้ต่อรองกับโลกตะวันตกเช่นกลุ่มยูโรให้ปลดการบอยคอตต์ ให้ราคายาง ข้าวและราคาสินค้าไทยเพิ่มกว่าเก่าสัก 2-3 บาทต่อกิโล เหมือนเอาเหล้าเก่ามาใส่ขวดใหม่ให้ดูดีขึ้น ซึ่งผู้คนและนักการเมืองในกลาครอบแห่งนี้ มองไม่เห็นอะไรดีกว่าวัฏจักรวงจรอุบาทก์แบบเดิมๆ ซึ่งเหมือนกำลังทำให้ประชาชนซึ่งเป็นเหยื่อไม่มีทางดิ้น ตายอย่างช้าๆแบบต้มกบ และหรือปลานรกที่วิ่งหนีความร้อนของน้ำเมื่อน้ำเริ่มเดือด เข้าไปว่อนจุกในข้อผักบุุ้งที่หั่นเป็นท่อนๆ ไว้รอรับวาระสุดท้ายของลูกปลา แต่เคี้ยวอร่อยลิ้น เป็นที่นิยมพอๆกับกุ้งเต้น อาหารที่คนไทยชาวพุทธนิยม คือกินอย่างมีรสชาดเอร็ดอร่อย บนความตายสุดทารุณของเหยื่อภักษาหาร
มาเฟียศาสนาพระธัมมชโยยังขณะนี้หาตัวไม่เจอ คงต้องเสียเงินให้พวกโจรจนหมดย่ามที่ตัวมีเพื่อความอยู่รอด ยังดีที่ทหารเอาเงินไปแล้วมันไม่หักหลัง ปล่อยให้หนีไปได้กับสาวกและสีกา4-5 คน ปล่อยให้ศาสนิกชนกลุ่มธรรมกายเพิ่มความย่อยยับตลอดไป จนในที่สุดต้องสลายตัวและหมดพลังเพราะเหตุนี้ อลัชชีคนนี้จะสร้างความเสียหายอย่างมหรรณ์ และความศักดฺิ์สิทธิและอิทธิพลของพวกสงฆ์ ในทางผิดแผกนอกทางพระพุทธศาสนาที่ร่ำรวยขึ้นมา จะโดนปล้นไปทั่วทั้งแผ่นดิน พวกโจรมันอ้างว่าเป็นการทำลายพวกอลัชชีศาสนา แต่ได้เงินมากมายด้วย เหมือนยิงนกนัดเดียวได้นกอ้วนสองตัวเลยทีเดียว
ศรัทธาความเชื่อถือและบารมีที่แท้จริงนั้นมาจากจิตวิญญานที่ผู้คนมอบให้ และสร้างสมคุณความดีมายาวนาน ศาสนาพุทธมีมากว่า 2561 ปี ไม่ใช่พระสักคนมาสร้างศาสนจักรเป็นแบบอาณาจักร มีวัดในอาณัติเป็นพันหรือหมื่นแห่ง แล้วจัดก่อตั้งธนาคารหรือสถาบันการเงินฟอกเงินในวัดเอง ทีพระพุทธองค์ยังสละราชสมบัติออกบวชเป็นตถาคต ศาสดาของโลกผู้มีทรัพย์สินเพียงแค่จีวรคลุมกายและบาตรที่ต้องออกขออาหารปะทังชีวิต เพื่อแลกกับธรรมะที่ตัวมี โดยแผ่เมตตาต่อมวลมนุษย์โลก ให้รู้การพ้นทุกข์ว่าทำกันอย่างไร เราพากันลืมแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาของพระพุทธองค์กันหมดสิ้นไปนานแล้ว พระยุคจักรีตอนหลังมียศฐาบันดาศักดิ์ ร่ำรวย เซ็งลี้กุฏิที่อาศัย เล่นพรรคเล่นพวก บ้างมั่วสุมกาเมอย่างไม่ละอาย แต่งอุบายทำลายคู่แข่ง เข้าไปมีอิทธิพลในอาณาจักรถึงในรั้วในวังที่เน่าเหม็น สารพัดพิษร้ายสุดพรรณา ฯลฯ เหมือนพวกมาเฟ๊ยอย่างไรก็อย่างนั้น ขาดแต่ยังไม่ใช้อาวุธฟาดฟันกันเท่านั้น ตัวอย่างอ้ายอันทะอิสระซึ่งเป็นอลัชชีแหวกแนวตัวแรกที่มีให้เห็น
สักวันนายไชยบูลย์ สุทธิผล อาจจะมาสมัครแข่งขันเพื่อรับเลือกเป็นประธานาธิบดีคนที่สามหรือที่สี่ของประเทศสหรัฐประชาชนไทย หากหมดข้อหาเรื่องหลอกลวง หรือฉ้อโกงต่างๆแล้ว ก็ไม่ผิดกติกาอันใด แต่ทางราชการห้ามใช้วัดพระธรรมกายหลอกหาเงินผู้คนอีกต่อไป
กิจของคราวาสกับกิจของสงฆ์ในศาสนาพุทธควรแยกจากกันโดยเด็ดขาด และสงฆ์ไม่ควรจับเงินได้อีกต่อไป เพราะจับเงินแล้วจะเกิด"เงื่ยน"แน่นอน
ได้แต่หวังว่าพวกมรรคทายกที่เป็นทั้งอุบาสกอุบาสิกาที่ใกล้ชิดหลวงพ่อ ซึ่งมีสิทธิเงี่ยน จะไม่เงี่ยนหนักมากทวีคูณ เพราะจะรวยมากขึ้นอย่างผิดหูผิดตา เพราะหลวงพ่อจับเงินไม่ได้อีก ต้องมีกฎหมายออกมาควบคุมตรวจสอบอย่างรัดกุมให้พอเพียง เพราะมนุษย์ไม่ว่าชาติไหนชอบและบูชาเงินเสมอ
ที่นี่ยุ่งหนอ ที่นี่วุ่นวายหนอ
"ความเงื่ยน"ไม่ใช่กิจของสงฆ์ที่ห่มเหลือง จะต้องสังฆาทิเสสให้มัวหมอง กล่าวไว้ใน"นวโกวาท"ของพระน้องยาเธอในร.ห้า พระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส เอาไว้เป็นคู่มือสอนพระบวชใหม่ ลองศึกษาดูว่าการต้องอาบัติปราชิกข้อที่สองคือ"ลักทรัพย์เกินห้ามาสก" และข้อที่สี่เรื่องอวดอุตริมนุสสธรรมว่าเป็นมาอย่างไร จะทำให้ขาดเป็นสงฆ์ตามกฎพระพุทธศาสนา นอกจากนั้นยังมีอาบัติจากหนักไปหาเบาอีก 7 อย่างมากมาย ที่พระสงฆ์ต้องอยู่ในกรอบ นอกเหนือจากนั้นก็ต้องกลายเป็นพวกอลัชชี
ไม่ศรัทธาอย่าคิดไปบวช ให้รกวัด รกศาสนาเป็นอันขาด เป็นการทำลายพระพุทธศาสนาด้วยซ้ำ
กลาแลนด์หาพบแก่นศาสนาพุทธของแท้แทบไม่มีอีกแล้ว(แต่ก็ยังมีอีกมากตามป่าตามเขา) ที่เห็นล้วนสิ่งแปลกปลอมที่เป็นมลพิษร้ายต่อศาสนาและชีวิตบริสุทธิแทบทั้งนั้น
ถึงคราวจะปฏิสังขรศาสนาพุทธอย่างจริงจังให้คืนกลับมา ก่อนจะให้เสียไปทั้งหมดแล้วยัง?
โดยเริ่มรณรงค์ไม่ให้พระจับเงินเป็นอันดับแรก ก็น่าจะเป็นกุศโลบายที่ถูกต้องอย่างแน่นอน
ที่วุ่นวายทุกวันนี้เพราะพระเกิดเงี่ยนเหมือนอ.ส.ศิวรักษ์ว่าไว้นั่นเอง
ฉนั้น"ความเงื่ยน"ไม่ใช่เป็นเรื่องของสงฆ์ ...... แต่เป็นของฆาราวาส ทหารปร.ไทย และเสี่ยบ้าหอยเท่านั้น
...หากสืบต่อไป ใครเอาพระพุทธรูปทองคำ8องค์(องค์หนึ่งน้ำหนัก 1 ตัน-2,000 กก.) และพระพุทธรูปที่หลอมด้วยเงินมากมาย พร้อมเพชรนิลจินดามากมายอันมีค่ามหาศาลที่สะสมอยู่ในวัดนี้มานาน
..ว่าใครเป็นคนเอาไป? สักวันก็คงรู้กัน
บทเรียนจากวัดพระธรรมกายเพียงขั้นเริ่มต้นเท่านั้น
ปิดบัญชีบ้าน...มาลงทุนในบัญชีวัดเพื่อไปถึงสวรรค์โดยทางลัด
ขอให้จงรวย รวย รวย รวย
Last edited by ปาปียอง (December 10, 2018 12:49 PM)
Offline
อันตรายนะพระองค์ อย่าเสี่ยงนะพระองค์
ก็ได้แต่ปรามไว้ แต่กษัตริย์ตรัสแล้วไม่คืนคำ? ว่าจะนำ"ขบวนจักรยานไบค์ฟอแดด-Bike for Dad" 200 คน ไปจากกรุงเทพมหานครสู่ธนบุรี วนไปรอบอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีมหาราชที่วงเวียนใหญ่ ช่างกล้าหาญแท้ที่จะไปนมัสการเยือนถิ่นท่านผู้กู้ชาติมาจากการสูญสิ้นความเป็นไทยแก่พม่าในครานี้ ท่านอาจทรงไม่เชื่อเคล็ดลับต่อคำสาปที่ให้ไว้ก่อนถูกสังหารว่า"กูให้มึงไม่เกินห้าชั่วคน" โดยจะขี่จักรยานรอบอนุสาวรีย์แบบเย้ยฟ้าท้าดิน ให้วิญญาณศักดิ์สิทธิของคนแซ่แต้ได้อับอาย ว่ากูนี่แหละโว้ยจะเป็นจอมราชันแห่งสยามผู้เกรียงไกรแห่งยุค
https://youtu.be/DuS0HzuBAZo?t=86
https://youtu.be/cSOxSDlqZpw?t=1173
เชิญเลยครับ เชิญเลย เพราะพระองค์เป็นเพียงรูปปั้น ที่มีการครอบทางคุณไสย์ฯมาตั้งแต่ก่อสร้างอนุสาวรีย์แห่งนี้ และไม่รู้กี่ครั้งที่มีพิธีลับกระทำต่อรูปปั้นนี้มาให้สยบ ไม่ให้ตื่น แต่เวลาของโลกจิตวิญญาณตามกฎแห่งกรรมของมนุษย์มันเดินเข็มเที่ยง ปลุกให้พระองค์ทรงตื่นขึ้นมาอีก นั่นคือเวลาวาระสุดท้ายของจักรีที่ท่านสาปเอาไว้ได้มาถึงแล้ว คือการปั่นจักรยานไปเยือนถึงบ้านท่านโดยร.10 นั่นเอง เหตุการณ์ครานี้ช่างเหมือนพรานที่เหลือกระสุนนัดสุดท้าย ที่จู่ๆกวางตัวสำคัญวิ่งตัดหน้าเข้ามาใกล้ อย่างไม่คาดฝัน....วิญญาณสมเด็จพระเจ้าตากสินศักดิ์สิทธิจริงหรือไม่ ก็อาจคงได้เห็นกันคราวนี้เป็นแม่นมั่น
สุชีพ ชีวสุทธิ์แห่งองค์การสหพันธรัฐไทยได้บรรยายไว้ว่า จะเป็นการเสด็จกระบวนพยุหยาตราข้ามสพานพุทธฯเป็นครั้งสุดท้าย หากรอดจากคราวนี้ไปได้ก็คงไม่กล้าอยู่ในประเทศอีกต่อไป คงประทับอยู่เยอรมันตลอดช้่วอายุขัย เหมือนพระเจ้าลุงประชาธิปกที่สิ้นชีวิตในอังกฤษหลังการปฏิวัติพ.ศ. 2475 แล้วให้เงินน้องยาเธอพระองค์เจ้าบวรเดชสองแสนกว่าบาทเพื่อปฏิวัติซ้อน แต่ถูกคณะราษฎร์นำทัพโดยจอมพลป.พิบูลย์สงครามปราบเสียแตกพ่ายยับเยิน แม่ทัพบวรเดชต้องหนีไปเวียตนาม ร.7 ร้องปวดตาต้องไปรักษาที่อังกฤษ ที่แท้เพราะกลัวทหารฆ่า จนต้องสละราชสมบัติและเสียชีวิตนอกประเทศที่นั่น
ความศักดิ์สิทธิของกฎแห่งกรรมในประวัติศาสตร์ รอท้าทายให้พิสูจน์เสมอ
เปิดรับฟังรายการของวิทยุใต้ดินขององค์การสหพันธรัฐไท ในการเตรียมตัวทำการปฏิวัติครั้งนี้ได้ทุกวัน และวันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม 2561 ได้ตลอดทั้งวันทั้งคืน
พบกันใหม่
สวัสดีครับ
Last edited by ปาปียอง (December 6, 2018 9:50 PM)
Offline
องค์การสหพันธรัฐไทล้มเหลวอย่างหมดรูปอีกเป็นครั้งที่สอง
การรนณรงค์ต่อต้านปั่น"ไออุ่นรัก"หรือไบ้ค์ฟอร์แดด(BIKE FOR DAD)วันนี้ที่ 9 ธันวาคม 2561 ของลุงสนามหลวง-ส.ยังบลัด-ส.ข้าวเหนียว ซึ่งทั้งองค์การมีเพียง 3 คน ได้พยายามปลุกพวกเสื้อดำทั่วโลกให้ต่อสู้กับสถาบันกษัตริย์ ก็ได้ประจักษ์ว่าเป็นความล้มเหลวโดยสิ้นเชิง เป็นครั้งที่สอง ที่ครั้งแรกนั้นได้พยายามกระทำความวุ่นวายในงานพิธีศพของร.9 ปีที่แล้ว ทั้งสองครั้งไม่มีทีท่าว่ามวลชนจะไปยอมติดคุกให้ด้วย ไม่นับการร่วมมือกับโกตี๋ที่อ้างว่ามีกองกำลัง7-800 คนที่จัดตั้งภายในไว้แล้ว ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นเรื่องหลอกลวงหาเงินได้เป็นกอบเป็นกำขนาดใหญ่ และทุกอย่างถูกปัดไปเป็นของโกตี๋คนเดียว
สามสหายองค์การสหพันธรัฐไทไม่เคยมีการจัดตั้ง ต่อพลังมวลชนภายใน ในรูปบริหารที่เป็นลักษณะองค์การปฏิวัติ ที่ต้องมีการวางแผน สั่งงาน เตรียมงาน มีวินัยในทางปฏิบัติ จากมนุษย์สู่มนุษย์ที่จับต้องกันได้ แต่ใช้วิธีเดิมคือวางแผนกันบนอากาศ คือใช้โฟนอินพูดคุยกันอย่างเดียว ผู้ร่วมงานอื่นๆยังไม่เคยแม้เห็นหน้ากันและกัน หน่วยงานไม่เคยพัฒนาไกลเกินไปกว่าการบัญชาการรบในสงครามจากห้องนอน ไม่มีการจัดตั้งกองกำลังตามแบบอย่างเป็นกิจลักษณะ มีแต่คอยฝัน ว่าแรงจูงใจของตน จะสามารถทำให้ผู้คนเห็นด้วยอย่างแรงกล้า ยอมออกไปเสี่ยงคุกตาราง บาดเจ็บ หรือถึงตายได้ ซึ่งคงไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอน เพราะ"การพูดนั้นราคาถูก-TALK IS CHEAP" เหมือนผายลมออกไปวันๆ .... "กำขึ้ดีกว่ากำตด" ภาษิตเก่าของคนไทยว่าสิ่งที่ไร้ค่าที่สุดแล้วอย่างน้อยสุดคือ "กำขี้ ดีกว่ากำตด"นั่นเอง
นายพลวอชิงตันหน.ปฏิวัติฝ่ายทหารของอเมริกาได้รบแพ้อังกฤษยับเยินมา 4 ครั้ง จนอับอายนักปฏิวัติด้วยกัน นั่งเหม่อลอยอยู่คนเดียว จนหลายคนติดว่าเขาคงฆ่าตัวตายด้วยความอัปยศอดสูในที่สุด แต่การบครั้งต่อไปเขาเอาทหารลุยแม่น้ำเดลาแวย์ที่กำลังจะกลายเป็นน้ำแข็ง ของกลางดึกคืนวันคริสต์มาส 25 ธันวาคม 1776 ขณะที่ข้าศึกเลินเล่อ เมามายฉลองวันคริสต์มาสกัน เขาจึงทำการสำเร็จ และความสำเร็จมีมาอีกต่อกันหลายครั้ง จนได้ชัยชนะในที่สุด
แต่นายพลวอชิงตันออกรบนำทหารเกือบทุกการยุทธในทุกสมรภูมิ ....ไม่ใช่รบแบบผายลมอยู่แต่ในห้องนอน
Last edited by ปาปียอง (December 10, 2018 12:59 PM)
Offline
Offline
ข่าวร้าย !!
ลูกชายและภรรยาของลุงสนามหลวง(ชูชีพ ชีวสุทธิ์)ถูกทหารหลายนาย(ไม่ทราบจำนวน) บุกเข้าจับที่บ้านเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2561 ก่อนล่วงหน้า 1 วันที่กำหนดไว้ว่าเป็นวัน"ปั่นจักรยานไออุ่นรัก หรือวันไบค์ฟอร์แดด" และตรวจสอบไม่ได้ว่าถูกเก็บตัวไว้ที่ไหน ซึ่งลุงสนามหลวงกล่าวว่าเป็นกองทหารราบ-11ที่บางเขน จึงมีแถลงการณ์ขององค์การสหพันธรัฐไทตามในคลิ๊ปที่แนบมา
และหลายรายงานบ่งว่ากษัตริย์ร.สิบกว่าจะออกร่วมงานได้ก็ในวันอาทิตย์ที่ 9 เกือบ 6 โมงเย็นและมืดแล้ว โดยอ้างว่าไม่อยากให้ประชาชนตัองถูกแดดร้อน เท่าที่ทราบ(ต้องดูหลายคลิ๊ป) และเอามาประเมินว่าเรื่องจริงนั้นเป็นอย่างไรกันแน่ เพราะข่าวในตอแหลแลนด์แห่งนี้มันโฆตรตอแหลมาตลอดในทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับพวกเจ้าและทหารใหญ่ๆ ฟังอะไรเห็นอะไรอย่าปักใจว่าเป็นความจริงทันที เมืองนี้ประเทศนี้ขณะนี้ทั่วโลกเขาเอือมระอากันเต็มที ไปไหนคนไทยแทบไม่กล้าบอกว่า"ฉันเป็นคนไทย" แถบประเทศละแวกตะวันออกกลาง พอได้ยินคำว่า"ไทย" เขาก็พากันนึกถึง"เพชรซาอุ" เขาก็ควักผ้าเช็ดหน้าออกมาอุดจมูก และคงรีบเข้าห้องน้ำล้างมือ ล้างหน้า ล้างตา ล้างหู ที่ดันไปจับมือกับ"ตัวซวย"หรือ"ตัวเหี้ย" เพราะจะทำให้เขาจะประสพโชคร้ายไปนาน หากหลบได้เขาจะเดินคนละฟากถนนไปเลย
https://youtu.be/0Vlivw5nrdI?t=70
https://youtu.be/9dnaCXx0GI4?t=2019 (ไอ้กระจอกกูบอกเลย มึงมันกระจอก คำประกาศจากทางองค์การตรวจค้น ราบคาบ11 13.12.18......ยูทูปเอาคลิปนี้ออกเสียแล้ว.โปรดหาชมในกูเกิ้ลครับ.)
http://feedproxy.google.com/~r/prachata … tJC74/7847
การเอาทหาร(แทนที่จะเป็นตำรวจ)ไปบุกจับลูกเมียลุงสนามหลวงคราวนี้ คงดังกระฉ่อนไปทั่วโลก และหากผู้ถูกจับถึงแก่ชีวิตเหมือนพวกหมอหย็อง ปรากรม วารุนประภา พิสิทธิศักดิ์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ฯลฯ ก็คงเป็นจุดวินาศของราชอาณาจักรแห่งนี้ เพราะหลายแห่งทั่วโลกทั้งยุโรป อเมริกา แคนาดา อ๊อสเตรเลีย ญี่ปุ่นและแม้แต่จีนเขาคงเบ้หน้ากันไปตามๆกัน ไทยจะจับกุมบุคคลที่สามซึ่งเป็นสมาชิคครอบครัวของผู้ต้องคดีอย่างลุงสนามหลวง ทำเหมือนที่ขณะนี้ที่แคนาดาจับลูกสาวบ.หัวเหว่ย ยักษ์ใหญ่ทางโทรศัพย์และคมนาคมของจีนและเป็นอันดับสองของโลก ล้ำหน้าบ.แอปเปิ้ลไปเรียบร้อยแล้ว(SAMSUNG is #1) จะขี้ตามช้างดังอเมริกาสมัยปธน.ทรั้มฟ์ทำกับจีนและหัวเหว่ย หรือกรณีย์ที่อเมริกาไม่แตะต้องเรื่องการฆ่านายคาโชคคี(Jamal Khashoggi scandal) ที่สถานกงศุลของซาอุดิอาเรเบียที่เมืองอิสตันบูลประเทศตูรกี ซึ่งเรื่องพวกนี้ปธน.ทรั้มฟ์จะมีปัญหาอีกมากมายต่อสมาคมโลกและสภาของอเมริกาเอง เพราะความโหดเหี้ยม เลือดเย็นทำร้ายมนุษย์ต่อกันอย่างป่าเถื่อนโลกยอมรับไม่ได้ ความป่าเถื่อนแบบไทยๆนั้นจะถูกวางบนเขียงแล้วใช้แว่นขยายส่องตรวจดู และโลกจะพากันตกตะลึงต่ออีกหลายเรื่องที่มีคนหายไปจำนวนมาก หลังจากพวกมหิดลครองราชมา 73 ปีก็จะถูกสาวถึง ฮอลีวูดคงเอามาสร้างหนังแบบมาดามเซ็กเครตตารี่(Madam Secretary)จะมีขึ้นอีกอย่างแน่นอน
ไอ้โอมันออกมาเกือบค่ำวันปั่นเพื่อพ่อ เพื่อเป็นข้ออ้างไม่ต้องข้ามสพานพุทธ ฯ ไปสู่วงเวียนใหญ่ที่อนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ซี่งขณะนี้ทรงถูกปลุกให้มีวิญญาณอันศักดิ์สิทธิขึ้นมาอีก..ตาม"เวลานาฬิกากฎแห่งกรรม" ที่พระองค์ได้สาปแช่งไว้ก่อนถูกประหาร โดยลั่นวาจาอันศักดิ์สิทธิไว้ เป็นที่รู้กันทั่วแผ่นดินว่า"กูให้มึงไม่เกินห้าชั่วคน" หากเสี่ยไปวันนั้นอาจมีประชาชนพากันถวายลูกน้อยหน่า ปลีกล้วย และถวายถังแก๊สให้ ฯลฯ ก็อาจเป็นได้ หน่วยกู้ภัยในรูปขบวนรถหุ้มเกราะของทหารจปร.ไทยที่คอยจ้องอยู่แล้ว จะเข้าซ้ำเติม.....ให้หมดสิ้นราชวงศ์..ที่อนุสาวรีย์แห่งนี้? ......จบกันทีจักรีมหาอุบาทว์
และหากเกิดเหตุเช่นนี้แล้วรอดไปได้ ก็คงไม่กล้าโผล่หัวกลับมากลาแลนด์อีกอย่างถาวร...แน่นอน
คงปล่อยให้ทหารจปร.ครองเมืองตลอดไป พวกสางเขียวพากันหัวเราะชอบใจ
ที่กษัตริย์องค์นี้กลัวที่จะไปเยือนพระเจ้าตากสินฯ แล้วเรื่องจับลูกเมียลุงสนามหลวง
มันเกี่ยวพันกันให้เห็นชัดเจนครานี้
ใครหวังพึ่งกษัตริย์รัชกาลนี้ นอกจากทักษิณ ชินวัตรแล้ว อาจไม่มีอีกแล้ว
ทหารจปร.ไทยและอำมาตย์ที่เป็นพวกทหาร ต่างพากันกระหยิ่มยิ้มย่อง ฉลองกันเป็นการใหญ่ขณะนี้
เพราะตระหนักกันดีว่าเสี่ย"ไม่มีกึ๋น-No Guts, No Glory"นั่นเอง
ปล. ไม่มีข่าวจากบริษัทซีพี ที่ลูกชายของลุงสนามหลวงและครอบครัวทำงานหาเลี้ยงชีพอยู่แต่อย่างใด
เงี่ยหูฟังให้ดี ไฟร้ายในตอแหลแลนด์ ..... มันจะลุกลามหนักไปทั่ว
Last edited by ปาปียอง (December 14, 2018 11:59 PM)
Offline